ฉบับที่ 08/2556
ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 1 ปี 2556 ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากผลของนโยบายภาครัฐที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของภาคเอกชนสิ้นสุดลงเมื่อเดือนธันวาคม 2555 ประกอบกับการใช้จ่ายของภาครัฐที่หดตัวลงจากรายจ่ายประจำ ทำให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอลง สะท้อนจากการชะลอตัวของภาคการค้าโดยเฉพาะการค้าปลีกรถยนต์ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สะท้อนจากสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังขยายตัว สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.23 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ชะลอลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.2 ชะลอจากไตรมาสก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เป็นผลจากการชะลอลงในหมวดรถยนต์เป็นสำคัญเนื่องจากมีการเร่งส่งมอบรถยนต์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2555 ไปแล้วภายหลังจากมาตรการรถยนต์คันแรกสิ้นสุดในช่วงสิ้นปี 2555 สอดคล้องกับการชะลอตัวของภาคการค้า โดยดัชนีการค้าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.1 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 28.1 เป็นผลจากการค้าปลีกหมวดยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.9 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.4 สำหรับการค้าปลีกสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม และการค้าส่งไม้แปรรูป อุปกรณ์ก่อสร้างและเหล็กยังขยายตัวดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ยังขยายตัวดีใกล้เคียงไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าวัสดุก่อสร้าง และน้ำมันเชื้อเพลิง
การลงทุนภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.9 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน ตามภาคการก่อสร้างโดยรวมเนื่องจากขาดแคลนแรงงาน แต่พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนตามการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์และการก่อสร้างเพื่อการบริการ โดยเฉพาะการก่อสร้างโรงแรมและอาคารห้องประชุมในจังหวัดนครราชสีมา หนองคาย และขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากการทยอยส่งมอบรถยนต์จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐ ประกอบกับจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ขณะที่เงินลงทุนแม้ชะลอลงจากไตรมาสก่อน แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี จากการตั้งโรงงานขนาดใหญ่ได้แก่ โรงงานผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB BOARD) โรงงานผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์และส่วนผสมอาหารสัตว์ เป็นต้น
การใช้จ่ายของภาครัฐ ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.0 และลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนจากฐานสูงในปีก่อน เนื่องจากการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 โดยงบประจำลดลงร้อยละ 23.8 แต่งบลงทุนยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ 81.6 ส่วนใหญ่เป็นงบในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท
ภาคเกษตร ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ ทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนบ้างตามผลจากด้านราคาเป็นสำคัญ โดยดัชนีราคาพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยร้อยละ 0.07 จากราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่สูงขึ้น เนื่องจากผลของโครงการรับจำนำของรัฐบาลประกอบกับผลผลิตบางส่วนลดลงจากปัญหาภัยแล้ง ราคามันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมเอทานอล อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ และเนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวล เรื่องผลผลิตที่อาจลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้จากปัญหาภัยแล้ง จึงต้องเร่งซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าเข้าสต็อกราคาอ้อยโรงงานลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนตามราคาน้ำตาลในตลาดต่างประเทศ ส่วนราคายางพาราลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และความต้องการของตลาดต่างประเทศชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่คลี่คลาย สำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.01 เป็นผลจากผลผลิตข้าวและผลผลิตอ้อยโรงงานลดลงจากปัญหาภัยแล้ง ในขณะที่ผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีพื้นที่กรีดเพิ่มขึ้น และผลผลิตมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากการระบาดของเพลี้ยแป้งลดลงส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แต่ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนตามการผลิตที่ชะลอลงในอุตสาหกรรมน้ำตาล และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผลิตลดลง สำหรับภาคบริการ อัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 49.1 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีอัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 47.2
สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวจากไตรมาสก่อนตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อภาคครัวเรือน ได้แก่ สินเชื่อการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล ส่วนสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ยังขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวจากไตรมาสก่อน ตามสินเชื่อเพื่อสังคม สินเชื่อตามโครงการของรัฐ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.23 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.48 ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.83 ตามราคาอาหารสำเร็จรูปบริโภคในบ้านที่ชะลอลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค
โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410
E-mail: [email protected]
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย