ผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) วันที่ 14 มิถุนายน 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 14, 2013 14:28 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 25/2556

ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการหารือร่วมกันระหว่าง กนง. และ กนส. ครั้งที่ 1/2556 โดยมีประเด็นสาคัญดังต่อไปนี้

ที่ประชุมเห็นว่าภาพรวมระบบเศรษฐกิจการเงินไทยมีเสถียรภาพ โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้ม ขยายตัวแม้จะชะลอลงในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 จากอุปสงค์ในประเทศ หลังจากที่เร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้า โดยมีแรงส่งจากปัจจัยพื้นฐานที่อยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ภาคการส่งออกทรงตัวและขยายตัวช้า ๆ ตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก อนึ่ง ตัวเลขส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปียังขยายตัวได้ดีกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ดี มีผู้ประกอบการ SME บางส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้แรงงานสูงและมีอัตรากาไรต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ

ในส่วนของตลาดการเงิน การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงต้นปีสะท้อนการปรับตัวของค่าเงินบาทหลังจากค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคแข็งค่าไปในปีก่อนแล้ว และเป็นผลจากเงินทุนไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ระยะยาว สะท้อนถึงความต้องการลงทุนที่แท้จริงในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี เงินทุนเคลื่อนย้ายยังมีแนวโน้มผันผวนและอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในระยะต่อไป ทั้งจากผลของการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของประเทศเศรษฐกิจหลัก ตลอดจนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนเงินทุนไหลเข้า แต่ขณะเดียวกัน ตลาดการเงินยังอ่อนไหวอยู่มากต่อข่าวสาร อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ดีขึ้น ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดระดับสภาพคล่องในตลาดเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนไหลออกได้

ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีความมั่นคง สินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคและ สินเชื่อ SME เป็นหลัก แม้จะเริ่มชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ คุณภาพสินเชื่อโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี เงินกองทุนและเงินสำรองอยู่ในระดับสูง ซึ่งสามารถช่วยรองรับปัจจัยเสี่ยงและความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและระบบการเงิน ในอนาคตได้ อย่างไรก็ตาม การขยายตัวและการแข่งขันที่สูงของสินเชื่ออุปโภคบริโภคและสินเชื่อ SME ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องติดตามคุณภาพสินเชื่อกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและเร่งขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็น ปัจจัยเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ว่าหนี้ครัวเรือนบางส่วนจะใช้ในการซื้อบ้านและสินทรัพย์ถาวร แต่ก็อาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินของครัวเรือนลดลงและส่งผลให้ความสามารถใน การชำระหนี้อ่อนไหวต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ