ฉบับที่ 35/2556
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวการจัดสัมมนาวิชาการประจำปี 2556 ของ ธปท. เรื่อง “วางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย” (Lifting Barriers to Sustainable Growth) ในวันที่ 19-20 กันยายน 2556 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพมหานคร
เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายต่อการเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวชะลอลงจากเฉลี่ยที่ร้อยละ 7.8 ต่อปีในช่วงปี 2523 - 2539 มาอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปีในช่วงทศวรรษหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ความสนใจส่วนใหญ่ได้มุ่งไปที่การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคซึ่งเน้นที่การดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะสั้นถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดทางโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นกำแพงขวางกั้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่แท้จริงกลับไม่ได้มีการกล่าวถึงเท่าที่ควร งานสัมมนาวิชาการในปีนี้จึงมีวัตถุประสงค์หลักที่จะประเมินสถานะของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยในมิติต่างๆ โดยเน้นการศึกษาผ่านมุมมองด้านจุลภาคที่จะช่วยบ่งชี้ข้อจำกัดสำคัญๆ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และเน้นการสร้างองค์ความรู้ที่จะช่วยสนับสนุนนโยบายในการก้าวข้ามอุปสรรคดังกล่าวเพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามศักยภาพที่แท้จริง
ธปท. มุ่งหวังให้การสัมมนาวิชาการในปีนี้เป็นเวทีที่เปิดกว้าง สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดและมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญที่มาจากหลากหลายสาขา รูปแบบการสัมมนาในปีนี้จึงมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มา โดยจะมีการนำเสนองานวิจัยทั้งจากพนักงาน ธปท. และนักวิชาการภายนอกจากหลายองค์กร ซึ่งครอบคลุมมิติต่างๆ ดังนี้
1. ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยไทยเริ่มเห็นข้อจำกัดในการพึ่งพาการสะสมปัจจัยการผลิต อาทิแรงงานและทุน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คำถามสำคัญคือ การเติบโตของผลิตภาพการผลิตจะสามารถเป็นอีกหนึ่งแรงส่งที่ขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวได้หรือไม่อย่างไร และจะมีที่มาจากไหน
2. อะไรคือข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของตลาดแรงงานไทยในปัจจุบัน ความสามารถในการแข่งขันของไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไรบนข้อจำกัดดังกล่าว นัยเชิงนโยบายที่สำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศจากมุมมองตลาดแรงงานไทยคืออะไร
3. ภาคการเงินมีผลต่อการขยายตัวและเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะยาวมากน้อยเพียงใดการมีระบบสถาบันการเงินและตลาดการเงินที่ลึก เข้าถึงได้อย่างทั่วถึง และเชื่อมโยงกับต่างประเทศ จะเอื้อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพได้หรือไม่
4. กฎกติกาภาครัฐเป็นรากฐานสำคัญของกลไกการทำงานของตลาดและการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ คำถามสำคัญคือ กฎหมายและการบังคับใช้รวมทั้งแนวนโยบายทางเศรษฐกิจทผี่ นมาส่งเสริมการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมมากน้อยเพียงใด
5. คุณภาพของสถาบันต่างๆ ในประเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว ปัจจัยเชิงวัฒนธรรม ทัศนคติ และค่านิยม มีความเชื่อมโยงต่อ คุณภาพของสถาบันเหล่านี้อย่างไร
6. การผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไม่ควรละเลยคุณภาพของการเติบโต การกระจายรายได้ (Income Distribution) และความเหลื่อมล้ำเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพหรือไม่ ทำอย่างไรจึงจะสามารถกระจายผลพวงของการเจริญเติบโตของประเทศให้ส่งทอดไปยังทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ และจากรุ่นไปสู่รุ่นอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ งานสัมมนาจะมีการเสวนาระดมความคิดเห็น จากบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐและเอกชน 4 ท่าน ซึ่งจะสะท้อนมุมมองและประสบการณ์ทั้งจากผู้กำหนดนโยบายและผู้ดำเนินธุรกิจ
บรรยง พงษ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน-ภัทร บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยมี อัจนา ไวความดี ประธานกรรมการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด และ อดีตรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการเสวนา
ธปท. จะจำหน่ายบัตรเข้าร่วมการสัมมนาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในราคาบัตรละ 3,000 บาท ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่ง/ซื้อบัตร และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายนโยบายการเงิน ธปท. โทร. 0 2283 6980-1, 0 2356 7389 โทรสาร 0 2282 5082 หรือ E-mail: [email protected] หรือผ่าน website ธปท. http://www.bot.or.th/
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย