ฉบับที่ 05/2557
ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ยังคงชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนตามการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวจากภาคการก่อสร้างเป็นสำคัญ ส่วนการบริโภคของภาคเอกชนยังคงหดตัวตามการหดตัวของรายได้เกษตรกร ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่การบริโภคภาคเอกชนเริ่มปรับตัวดีขึ้นบ้างตามการส่งผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐจากการโอนเงินอุดหนุนให้ อปท. เพิ่มขึ้นส่งผลให้การค้าปลีกสินค้าจำเป็นขยายตัว สำหรับการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงชะลอลง เนื่องจากสถาบันการเงินระมัดระวังในการให้สินเชื่อ แต่สินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับปกติ โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.46 และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ
การบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยร้อยละ 0.3 โดยปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ลดลงร้อยละ 2.4 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก สอดคล้องกับภาคการค้า ที่แม้จะลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ9.1 แต่หดตัวน้อยลง เนื่องจากการค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค และยอดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าที่ยังขยายตัว ประกอบกับการค้าปลีกในหมวดยานยนต์ที่หดตัวน้อยลง ขณะที่การค้าส่งอยู่ระดับทรงตัว ส่วนหนึ่งจากผู้ประกอบการยังรอความชัดเจนทางเศรษฐกิจจึงชะลอการสะสมสต็อก นอกจากนี้ภาคบริการ อัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 48.0 สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 47.2 ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติด้านการลงทุนภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.5 และยังคงลดลงต่อเนื่อง จากภาคการก่อสร้างเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี เงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งใหม่เพิ่มขึ้นบ้างจากที่หดตัวต่อเนื่องตามการลงทุนของธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วงก่อนหน้า สำหรับความสนใจลงทุนในระยะต่อไปมีแนวโน้มลดลงจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 35.0 จากที่หดตัวในเดือนก่อนโดยเพิ่มขึ้นทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ตามการเพิ่มขึ้นจากการโอนเงินอุดหนุนเฉพาะกิจให้กับสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและรายจ่ายในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้างเป็นสำคัญ
ภาคเกษตร ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.7 และหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามผลของราคาที่ยังหดตัวค่อนข้างมาก ประกอบกับผลผลิตชะลอลง โดยดัชนีราคาพืชสำคัญลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.6 และยังคงลดลงต่อเนื่อง ทั้งราคาอ้อยโรงงานและยางพาราที่ลดลงตามราคาในตลาดโลก ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวลดลงจากการเร่งระบายข้าวในสต็อกของทางการ สำหรับราคามันสำปะหลังสูงขึ้นเล็กน้อยตามความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.3 แต่ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามผลผลิตยางพาราและข้าว ส่วนผลผลิตอ้อยโรงงานเพิ่มขึ้น
การผลิตภาคอุตสาหกรรม หดตัวจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.2 และหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน เป็นผลจากการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ยังคงหดตัว เนื่องจากโรงงานบางแห่งปรับลดสายการผลิต ประกอบกับการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลงต่อเนื่อง ตามการชะลอตัวของความต้องการจากตลาดต่างประเทศ สำหรับการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำตาลชะลอลง ตามการผลิตน้ำตาลทรายขาว
ภาคการเงิน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2557 ธนาคารพาณิชย์ มีเงินฝากคงค้าง 610.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.8 แต่ชะลอจากเดือนธันวาคม 2556 ตามการชะลอตัวของเงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ ด้านสินเชื่อคงค้าง 778.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 18.7 แต่ชะลอลงต่อเนื่อง เป็นผลจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อแก่ภาคครัวเรือน ส่วนสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจแม้โดยรวมจะชะลอลงบ้าง แต่บางธุรกิจมีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรยังขยายตัวดี สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีเงินฝากคงค้าง 348.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.2 และขยายตัวจากเดือนธันวาคม 2556 จากเงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและธนาคารอาคารสงเคราะห์ด้านสินเชื่อคงค้าง 949.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.5 แต่ชะลอตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของสินเชื่อเกือบทุกธนาคาร
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.46 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามราคาสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ เนื่องจากมีการชดเชยน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจาก 0.20 บาทต่อลิตร เป็น 0.50 บาทต่อลิตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.66 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามราคาอาหารสำเร็จรูป ส่วนอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 1.1
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค
โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410
E-mail: Rotelakp@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย