แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนกรกฎาคม 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 29, 2014 11:16 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 14/2557

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนกรกฎาคม 2557 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เนื่องจากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นเป็นลำดับต่อเนื่องจากเดือนก่อน และการใช้จ่ายของภาครัฐที่ยังขยายตัวโดยเฉพาะในหมวดเงินเดือน ส่งผลให้ประชาชนมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนขยายตัว สะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนที่ดีในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรยังคงหดตัว ตามราคาพืชผลสำคัญ และการลงทุนที่หดตัวลง เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนหนึ่งระมัดระวังในการลงทุนและ รอความชัดเจนจากนโยบายของภาครัฐ สำหรับเสถียรภาพยังอยู่ในระดับปกติ โดยอัตราเงินเฟออยู่ที่ร้อยละ 2.65 ชะลอลงจากมาตรการลดรายจ่ายของภาครัฐ และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.8

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.4 แต่ปรับตัวดีขึ้น ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นเป็นลำดับต่อเนื่องจากเดือนก่อน ทำให้ประชาชน มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับภาคการค้า โดยเฉพาะการค้าส่งที่ขยายตัวดี ตามการค้าส่งสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม เช่นเดียวกับการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในห้างสรรพสินค้าที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี ขณะที่การค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเริ่มทรงตัว ส่งผลให้การค้าปลีกโดยรวมหดตัวน้อยลง ส่วนภาคบริการ อัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 48.5 ซึ่งใกล้เคียงกับเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 48.1 แต่รายได้ภาคบริการลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน

ด้านการลงทุนภาคเอกชนดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.4 และยังคงหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามภาคการก่อสร้างเป็นสำคัญ สะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้าง ในเขตเทศบาลที่ลดลงทั้งการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ การบริการและอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนหนึ่งยังระมัดระวังในการลงทุนและรอความชัดเจนจากนโยบายของภาครัฐ แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นบ้าง ในบางจังหวัดจากการก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกหลังจากที่หดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี สะท้อนจากยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น สอดคล้องกับเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าตัว จากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิและมุกดาหาร

การใช้จ่ายของรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.5 แม้จะชะลอตัวจากเดือนก่อน ตามการเบิกจ่ายรายจ่ายงบลงทุนลดลงในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้าง และหมวดครุภัณฑ์ แต่รายจ่ายงบประจำยังขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามการเบิกจ่ายในหมวดเงินเดือนและการโอนเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพิ่มขึ้น ทำให้บุคลากรภาครัฐมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

ภาคเกษตรดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.5 และลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน เป็นผลจากด้านราคาเป็นสำคัญ โดยดัชนีราคาพืชสำคัญลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.2 และยังคงลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยเฉพาะราคามันสำปะหลังหดตัวมากขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเนื่องจากปีนี้ไม่มีโครงการแทรกแซงราคาของภาครัฐ และยังมีปจจัยลบจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นพืชทดแทนที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่วนราคายางพารา ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ยังคงลดลงตามราคาในตลาดโลก เนื่องจากผลผลิตส่วนเกินยังอยู่ในระดับสูง สำหรับดัชนีผลผลิต พืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.8 ตามผลผลิตยางพาราจากพื้นที่กรีดยางที่เพิ่มขึ้น

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.2 จากที่เพิ่มขึ้นในเดือนก่อน เนื่องจากการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ลดลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากสต็อกสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนการผลิตเพื่อการส่งออกปรับตัวดีขึ้น ตามความต้องการจากต่างประเทศ ทั้งการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม Hard Disk Drive (HDD) และการผลิตน้ำตาล

ภาคการเงิน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ธนาคารพาณิชย์ มีเงินฝากคงค้าง 608.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.2 แต่ชะลอลงจากเดือนพฤษภาคม ตามเงินฝากประจำและกระแสรายวันที่หดตัว ขณะที่เงินฝากออมทรัพย์ขยายตัว ด้านสินเชื่อคงค้าง 794.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.1 แต่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ส่วนหนึ่งเนื่องจากธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังในการให้สินเชื่อ อย่างไรก็ดี สินเชื่อเพื่อการค้าวัสดุก่อสร้างเริ่มมีแนวโน้ม ดีขึ้นบ้าง สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีเงินฝากคงค้าง 359.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.1 และขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ตามเงินฝากของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ส่วนสินเชื่อคงค้าง 956.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.8 แต่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ตามสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเป็นสำคัญ

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ยังอยู่ในระดับปกติ โดยอัตราเงินเฟอทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.65 ชะลอลง จากเดือนก่อน ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ชะลอลงเป็นสำคัญจากมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กบง.) ให้ปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2557 ส่วนอัตราเงินเฟอพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.33 สูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนตามราคาอาหารสำเร็จรูปบริโภคในและนอกบ้าน สำหรับอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.8

ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410 E-mail: Rotelakp@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ