แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาสที่ 3 ปี 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 4, 2014 14:49 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 18/2557

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาสที่ 3 ปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ชะลอลงในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 ทั้งนี้เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้นเป็นลำดับ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความชัดเจนขึ้น ทำให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัวตามภาคการก่อสร้างเป็นสำคัญ สำหรับสินเชื่อของสถาบันการเงินยังชะลอตัวต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟอชะลอลง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.2 แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลทำให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคในกลุ่มสินค้าจำเป็น สะท้อนจากการค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าและการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มสินค้าคงทนโดยเฉพาะยอดจดทะเบียนรถยนต์และการค้าปลีกรถยนต์ยังคงหดตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรกที่ยังมีอยู่ แต่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นบ้าง สำหรับภาคบริการ ยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 46.8 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 48.2

ด้านการลงทุนภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.7 โดยเฉพาะการลงทุนในภาคการก่อสร้าง แต่เริ่มเห็นแนวโน้มของการปรับตัวที่ดีขึ้นบ้างตามการก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัยที่เริ่มหดตัวน้อยลง ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนยังรอความชัดเจนจากนโยบายของภาครัฐ สะท้อนจากเงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมที่หดตัวลง อย่างไรก็ตาม การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนของ BOI กลับมาขยายตัวหลังจากที่หดตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2556 โดยขยายตัวขึ้นมากในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ สะท้อนถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการที่สูงขึ้นหลังสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจน และเริ่มมีการวางแผนการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของการลงทุนในระยะต่อไป

การใช้จ่ายของรัฐ แม้จะหดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.8 แต่ปรับตัวดีขึ้นตามการเบิกจ่ายรายจ่ายงบประจำที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายจ่ายในหมวดเงินเดือน แต่รายจ่ายงบลงทุนยังคงลดลง อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2557 การเบิกจ่ายโดยรวมยังคงใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 2556 โดยรายจ่ายงบประจำสามารถเบิกจ่ายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่รายจ่ายงบลงทุนเบิกจ่ายน้อยกว่าปีก่อนตามการเบิกจ่ายที่ทำได้ล่าช้ากว่าปกติ

ภาคเกษตรกรรม ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.8 และลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน จากผลของราคาพืชผลที่ยังคงหดตัว โดยดัชนีราคาพืชสำคัญลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.8 ทั้งราคายางพารา ข้าว และมันสำปะหลังที่ลดลงตามแนวโน้มของราคาในตลาดโลก และผลจากการระบายสต็อกสินค้าเกษตรของทางการ แต่ด้วยสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูกในช่วงที่ผ่านมาช่วยให้ผลผลิตสินค้าเกษตรยังขยายตัว โดยดัชนีผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.6 โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของผลผลิตยางพารา และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.3 และยังคงลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ตามการผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากสต็อกสินค้ายังอยู่ในระดับสูง แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส ส่วนการผลิตน้ำตาลชะลอลง จากสต็อกน้ำตาลโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี การผลิตในอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม Hard Disk Drive (HDD) ขยายตัวเล็กน้อยตามความต้องการจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

ภาคการเงิน ธนาคารพาณิชย์ เงินฝากคงค้างเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.8 และขยายตัวจากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์แข่งขันระดมเงินฝาก รวมทั้งการทยอยไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งพักเงินไว้รอจังหวะการลงทุน และนักลงทุนรอประเมินการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ด้านสินเชื่อคงค้างเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.0 แต่ชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการให้สินเชื่อมากขึ้น สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เงินฝากคงค้างเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนตามเงินฝากของส่วนราชการ ด้านสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวใกล้เคียงจากไตรมาสก่อน ตามการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปร้อยละ 2.43 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนจากราคาสินค้าในหมวดอาหารสดที่ชะลอลงทั้งราคาเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ทั้งนี้ เป็นผลจากมาตรการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคของภาครัฐ และการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาตรการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันขายปลีก ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.23 สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ ร้อยละ 0.7 ยังอยู่ในระดับต่ำและลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.9

ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410 E-mail: Rotelakp@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ