ฉบับที่ 03/2558
ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2557 ชะลอลงจากปี 2556 ตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ผนวกกับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของภาครัฐ ที่ปรับดีขึ้นจากปีก่อน และขยายตัวค่อนข้างสูงในไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อจากรายได้เกษตรกรที่ลดลงจากผลของราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ตกต่ำ และภาระหนี้ของภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ทำให้การบริโภคฟนตัวได้ช้า สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟอทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.26 ขณะที่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ชะลอลงจากปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยการบริโภคสินค้าจำเป็นเริ่มฟนตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ช่วงกลางปี เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้นหลังสถานการณ์ทางการเมืองชัดเจนขึ้น และกำลังซื้อของภาคครัวเรือนจากแรงงานนอกภาคเกษตรโดยเฉพาะภาคการผลิตและภาคบริการที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากการขยายตัวของยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค สอดคล้องกับยอดการค้าส่งโดยเฉพาะสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่กำลังซื้อของเกษตรกรลดลงจากผลของ ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ แต่หากรวมผลของมาตรการรัฐแล้วช่วยให้กำลังซื้อของเกษตรสูงขึ้น สำหรับภาคบริการ รายได้ชะลอลง โดยมีอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 46.5 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 47.1
ด้านการลงทุนภาคเอกชน ชะลอลงจากปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ตามความเชื่อมั่น ของภาคธุรกิจที่ดีขึ้นเป็นลำดับหลังสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจน สะท้อนจากการก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมที่ปรับดีขึ้น และเร่งขึ้นมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายจากการก่อสร้างเพื่อการพาณิชย์ในโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนเริ่มทยอยลงทุนหลังจากที่ได้รับอนุมัติจาก BOI สะท้อนจากเงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการเพิ่มขึ้น
สำหรับแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาครัฐโดยรวมยังคงลดลงจากปีก่อนร้อยละ 5.0 จากการเบิกจ่ายทำได้ล่าช้ากว่าปกติ และการปรับเปลี่ยนการโอนเงินในงบประจำ แต่ปรับตัวดีขึ้นจากการใช้จ่ายงบลงทุนที่ขยายตัวค่อนข้างสูงในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2557 โดยเฉพาะหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้างของกรมชลประทาน ตามมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลเป็นสำคัญ
ภาคเกษตรกรรม ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 6.8 เป็นผลจากราคาพืชหลัก ที่ลดลง ขณะที่ผลผลิตยังเพิ่มขึ้น โดยดัชนีราคาพืชสำคัญลดลงจากปีก่อนร้อยละ 9.0 ทั้งจากราคายางพารา อ้อยโรงงาน ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว และมันสำปะหลังที่ลดลงตามทิศทางราคาตลาดโลกเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ราคามันสำปะหลังปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2557 เนื่องจากความต้องการของประเทศจีนยังที่มีอย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.4 จากผลผลิตในทุกพืชหลัก ยกเว้นผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ลดลงตามการลดพื้นที่ปลูก
การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.9 แต่ปรับตัวดีขึ้น โดยการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ยังคงหดตัวจากการบริโภคที่ลดลง แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี ส่วนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม Hard Disk Drive (HDD) หดตัวตามความต้องการจากตลาดหลักในต่างประเทศที่ชะลอลง อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำตาลยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ตามความต้องการภายในประเทศเป็นสำคัญ
ภาคการเงินธนาคารพาณิชย์ เงินฝากคงค้างเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.9 แต่ชะลอลงจากปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ฝากเงินหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ด้านสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 7.6 แต่ชะลอลงจากปีก่อน เป็นผลจากธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังในการให้สินเชื่อ ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงผู้ประกอบการรอความชัดเจนของแนวโน้มทางเศรษฐกิจ สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เงินฝากคงค้างเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.0 และขยายตัวจากปีก่อน ตามเงินอุดหนุนโครงการภาครัฐ และการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ด้านสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.7 แต่ชะลอลงจากปีก่อน ตามการชะลอลงของสินเชื่อธนาคารออมสินเป็นสำคัญ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟอทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.26 ชะลอลงจาก ปีก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.75 เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงต่อเนื่องตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่าไฟฟา ที่ชะลอลงอัตราเงินเฟอพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.99 สูงขึ้นจากปีก่อนตามราคาอาหารสำเร็จรูปสำหรับอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7 สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 0.6
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค
โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410 E-mail: Rotelakp@bot.or.th
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม : ฝ่ายกำกับสถาบันการเงิน
โทรศัพท์ : 02-283-5828 , 02-283-6837
E-mail : NanoAppFID@bot.or.th
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย