เศรษฐกิจภาคใต้เดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ทั้งทางด้านอุปทานและ อุปสงค์ โดยด้านอุปทาน ผลผลิตพืชผลเพิ่มขึ้น การท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่การประมง และอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่อง ด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัว ขณะที่การ ลงทุน การส่งออกและการเบิกจ่ายงบประมาณลดลง ส่วนอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนมา อยู่ที่ร้อยละ 5.6 ทางด้านสินเชื่อและเงินฝากขยายตัว
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงิน มีดังนี้
1. ภาคเกษตร ผลผลิตพืชหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิต ปาล์มน้ำมันและยางพาราเป็นสำคัญ ส่วนราคาพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ15.0 ตามราคายางพารา ปาล์มน้ำมันและกาแฟ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 72.4 และ46.0 ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้ของ เกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 24.2
ด้านประมงทะเล อยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากต้นทุนการทำประมงอยู่ในระดับสูง ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และบางพื้นที่มีมรสุม ทำให้เรือประมงบางส่วนหยุดทำการประมง นอกจากนี้เรือประมงส่วนหนึ่งได้นำสัตว์น้ำไปขึ้นท่าเทียบเรือของเอกชนและท่าเทียบเรือ ต่างประเทศ เช่น ศรีลังกา เนื่องจากใกล้แหล่งทำการประมง ส่งผลให้ปริมาณและมูลค่าสัตว์น้ำที่ นำขึ้นท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ลดลงร้อยละ13.2 และ 5.8 ตามลำดับ ขณะเดียวกันการเพาะเลี้ยงกุ้ง ผลผลิตลดลงร้อยละ 36.5 เนื่องจากเกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยง ผลจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและวิกฤติราคากุ้งตกต่ำตั้งแต่กลางปี 2550 ส่งผลให้ราคากุ้ง เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยกุ้งขาวขนาด 50 ตัวต่อกิโลกรัม ที่ตลาดมหาชัยราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 129.50 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.3
2. ภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 14.3 ตาม อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกที่การผลิตลดลงตามวัตถุดิบและการส่งออก โดยอุตสาหกรรม ยางพารา ปริมาณส่งออกยางผ่านด่านศุลกากรในภาคใต้มีจำนวน 169,509.3 เมตริกตัน ลดลง จากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 23.1 ส่วนอุตสาหกรรมสัตว์น้ำแปรรูปและแช่แข็งและอาหารทะเล บรรจุกระป๋อง ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.9 และ 33.0 ตามลำดับ ขณะที่ผลผลิต น้ำมันปาล์มดิบมีจำนวน 111,280.75 เมตริกตันเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 50.4 ตาม ปริมาณวัตถุดิบที่มากขึ้น
3. การท่องเที่ยว ภาวะท่องเที่ยวขยายตัว โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดิน จำนวนประมาณ 359,283 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 16.9 เนื่องจากเป็นช่วง ฤดูกาลท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามัน และเทศกาลตรุษจีน ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมมือจัดกิจกรรมเพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ประกอบกับการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่เป็นเที่ยวบิน ประจำ และเช่าเหมาลำ ทำให้นักท่องเที่ยวแถบเอเชียและยุโรป ได้แก่ มาเลเซีย จีนและสวีเดน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น สำหรับอัตราการเข้าพักในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 72.5สูงกว่าร้อยละ 66.8 ในเดือนก่อน
4. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัว ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 สูงกว่าอัตราเพิ่มร้อยละ 1.4 ในเดือนก่อน เนื่องจากดัชนีทุกหมวดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ดัชนีหมวดยานยนต์เร่งตัวขึ้นมากจากร้อยละ 0.7 ในเดือนก่อนเป็นร้อยละ 16.4 และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาสินค้า เกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ สูงขึ้น และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
5. การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนโดยรวมลดลง เนื่องจากผู้ลงทุนยังขาดความ เชื่อมั่น ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และความเข้มงวดในการให้สินเชื่อ ของธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้ผู้ลงทุนยังรอดูสถานการณ์โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการใหญ่ ๆ จะเห็นได้จากโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน มีเพียง 1 ราย เงินทุนลดลงถึงร้อยละ 98.8 และการจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ จำนวนรายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 แต่ทุนจดทะเบียนลดลงร้อยละ 1.0 ด้านการก่อสร้าง พื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 18.3 จากต้นทุนวัสดุ ก่อสร้างที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเหล็ก อย่างไรก็ตามปริมาณการจำหน่ายปูนซิเมนต์ในภาคใต้เพิ่มขึ้น จากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 19.3
6. การจ้างงาน ตำแหน่งงานว่างที่ผู้ประกอบการใช้บริการผ่านสำนักงานจัดหางาน จังหวัดในภาคใต้ มีจำนวน 4,885 อัตรา เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.0 โดยตำแหน่ง งานว่างส่วนใหญ่ต้องการผู้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาและระดับปวส. คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.9 และ 28.2 ของตำแหน่งงานว่างทั้งหมด ตามลำดับ ด้านผู้สมัครงาน มีจำนวน 5,322คน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 19.2 ผู้สมัครงานส่วนใหญ่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป รองลงมาเป็นวุฒิมัธยมศึกษา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46.0 และ 20.9 ของผู้สมัครงานทั้งหมด ตามลำดับ ขณะที่ผู้ได้รับการบรรจุงานเดือนนี้มีจำนวน 2,533 อัตรา เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.4 ส่วนแรงงานที่เข้าโครงการประกันสังคม มีจำนวน 589,401 คน เพิ่มขึ้นจาก เดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.7 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.4
7. ระดับราคา อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 5.6 เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 3.9 ในเดือนก่อน เป็นผลจากราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เนื่องจากราคาอาหารสูงขึ้นเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.1 ไข่และ ผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 และผักผลไม้เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 ส่วนหมวดอื่นที่ไม่ใช่อาหาร และเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับอัตรา เงินเฟ้อพื้นฐานของภาคใต้ อยู่ที่ร้อยละ 2.8 สูงขึ้นจากร้อยละ 2.0 ในเดือนก่อน
8. การค้าต่างประเทศ การค้าต่างประเทศผ่านด่านศุลกากรในภาคใต้มีมูลค่า ทั้งสิ้น 1,170.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.1 แยกเป็นมูลค่าการ ส่งออก 761.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.8 ตามการลดลงของ การส่งออกยางพาราและอาหารกระป๋อง ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 409.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.0 ตามการนำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้างและสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น
9. ภาคการคลัง การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการต่างๆในภาคใต้ มี จำนวน 8,291.8 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 45.5 ตามการลดลงของการเบิก จ่ายเงินงบประมาณของทุกคลังจังหวัด ส่วนภาษีอากรจัดเก็บได้ 2,387.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก เดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.5 แยกเป็นภาษีสรรพากรจำนวน 2,095.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน เดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.4 ขณะที่ภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรจัดเก็บได้จำนวน 180.5 ล้าน บาท และ110.9 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.2 และ 6.5 ตามลำดับ
10. การเงิน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 สาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคใต้ มีเงินฝากคงค้างประมาณ 410,000.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.7 และ สินเชื่อคงค้าง ประมาณ 348,000.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.2
ข้อมูลเพิ่มเติม : นายพสุธา ระวังสุข โทร.0-7423-6200 ต่อ 4345 e-mail : pasuthar@bot.or.th