สรุปภาวะเศรษฐกิจสำคัญในภาคใต้ เดือนตุลาคม 2550

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 30, 2007 15:32 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

เศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะ ราคายาง และปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันการทำประมงดีขึ้น และการท่องเที่ยว ขยายตัว ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวต่อเนื่อง ด้านการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและการ ลงทุนปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันการเบิกจ่ายเงินงบประมาณขยายตัว ส่วนการส่งออกยังคงลดลง ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องภาคเกษตรกรรม ในเดือนตุลาคมนี้ รายได้ของเกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักเพิ่มขึ้นจากเดือน เดียวกันปีก่อนร้อยละ 28.7 ตามราคาพืชผลหลักที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 เป็นผลจากราคายางพารา เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 ตามความต้องการของตลาดหลักคือ จีน และญี่ปุ่น ที่ซื้อเพื่อทดแทนสต็อกยางที่ ลดลง และปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 89.1 ขณะเดียวกันผลผลิตพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตปาล์มน้ำมัน เป็นสำคัญ ส่วนผลผลิตยางพาราลดลงจากสภาพฝนตกต่อเนื่อง ด้านประมงทะเล ปริมาณสัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลาในภาคใต้ เดือนนี้มีจำนวน 29,465.6 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 แต่มีมูลค่าสัตว์น้ำ รวม 1,005.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.4 เนื่องจากสัตว์น้ำที่จับได้ส่วนใหญ่เป็นปลาเป็ด โดยเฉพาะที่ ท่าเทียบเรือจังหวัดระนองมีปลาเป็ดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 328.5 นอกจากนั้น การประมงทะเลยังประสบ ปัญหาขาดทุนจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาสัตว์น้ำปรับสูงขึ้นได้ไม่ มากนัก การเพาะเลี้ยงกุ้ง ผลผลิตกุ้งขาวลดลง เนื่องจากเกษตรกรเร่งจับกุ้งขายในช่วงก่อนหน้า สำหรับปริมาณการเลี้ยงรอบใหม่ลดลง เนื่องจากเกษตรกรประสบผลขาดทุนจากราคากุ้งตกต่ำ ในการเลี้ยงรอบก่อนหน้า ด้านราคากุ้งขาวปรับตัวดีขึ้นในหลายขนาด โดยราคากุ้งขาวขนาด 50 ตัว ต่อกิโลกรัม ที่ตลาดมหาชัยเฉลี่ยกิโลกรัมละ 127.68 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 9.9 ส่วนหนึ่ง เป็นผลจากมาตรการรับจำนำกุ้งขาวของภาครัฐ และผลผลิตที่ลดลง แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกัน ปีก่อนยังคงลดลงร้อยละ 5.7ภาคอุตสาหกรรม ภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมของภาคใต้ชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยในเดือนนี้ผลผลิตน้ำมัน ปาล์มดิบลดลงร้อยละ 4.6 แม้ว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากเปอร์เซ็นต์การให้ น้ำมันของผลปาล์มลดลง ขณะเดียวกันปริมาณการส่งออกสัตว์น้ำแช่เย็นแช่แข็ง (ไม่รวมด่านศุลกากร สะเดา) อาหารบรรจุกระป๋อง ยางพารา และถุงมือยางลดลงร้อยละ 25.0 20.9 15.4 และ 5.9 ตามลำดับ จากปัญหาด้านวัตถุดิบ และความต้องการของตลาดต่างประเทศ ส่วนไม้ยางพารา แปรรูปปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9การท่องเที่ยว การท่องเที่ยวของภาคใต้ขยายตัว โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่าน ตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ประมาณ 238,071 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.3 เร่ง ตัวขึ้นมากจากที่ลดลงร้อยละ 2.0 ในเดือนก่อน โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต และสงขลามีนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5 และ 4.4 ตามลำดับ เนื่องจาก เดือนนี้ตรงกับช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ และเทศกาลฮารีรายอ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และ สิงคโปร์ เดินทางเข้ามามากขึ้น กอปรกับการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันเข้าสู่ช่วงปลายกรีนซีซันที่มี การส่งเสริมการขายในราคาพิเศษซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแถบเอเชีย อีกทั้งยังมีสายการบิน เช่าเหมาลำมาร์ตินแอร์จากประเทศเบลเยียมที่เริ่มบินเข้ามาสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่เดือนนี้ถึง เดือนมีนาคมปีหน้าการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนของภาคใต้ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคา ยางพาราอยู่ในระดับสูง และการท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น สะท้อนจากเครื่องชี้การบริโภคสำคัญได้แก่ การจดทะเบียนใหม่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่รวมศุลกากร) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 และปริมาณ การใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.4 ขณะที่การจดทะเบียนใหม่รถยนต์บรรทุก ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 12.6 และ 29.6 ตามลำดับการลงทุนภาคเอกชน การลงทุนปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือนนี้มีกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 6 โครงการ ใช้เงินลงทุนรวม 3,412.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 100.0 และ 2,844.5 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในภาคใต้ตอนบน 4 โครงการ และภาคใต้ตอนล่างที่จังหวัดตรัง 2 โครงการ ซึ่งเป็นกิจการผลิตไฟฟ้าจำนวน 3 โครงการ ส่วนที่เหลือเป็นกิจการโรงแรมขนาด 380 ห้องกิจการผลิตยางแท่ง และกิจการผลิตอาหารจากสัตว์น้ำแปรรูปแช่แข็ง อย่างละ 1 โครงการ ด้าน การจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคล จำนวนรายลดลงร้อยละ 0.6 แต่ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 ส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ขณะที่ภาคใต้ตอนล่าง จังหวัด สงขลามีการจดทะเบียนมากที่สุด ด้านการก่อสร้างในเดือนนี้ภาคใต้มีพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ ก่อสร้างในเขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล จำนวน 127,096 ตารางเมตร ลดลง จากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 40.4 เนื่องจากฐานสูงในปีก่อนจากการขยายการก่อสร้างเพื่อรองรับ การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในปีที่ผ่านมาการจ้างงาน ในเดือนนี้มีผู้ประกอบการแจ้งความต้องการแรงงานผ่านสำนักงานจัดหางานจังหวัดใน ภาคใต้ทั้งสิ้น 2,155 อัตรา ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 32.7 ส่วนใหญ่เป็นความต้องการแรงงานของจังหวัดสตูล ปัตตานี และพังงา ขณะเดียวกันมีผู้สมัครงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6 และ ได้รับการบรรจุงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.6 โดยจังหวัดที่มีการบรรจุงานเพิ่มขึ้นมากส่วนใหญ่เป็นจังหวัด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ จังหวัดภูเก็ต และพังงา สำหรับจำนวนแรงงานในภาคใต้ที่เข้าโครงการประกันสังคม ตามมาตรา 33 ณ สิ้นเดือน ตุลาคมนี้มีทั้งสิ้น 582,694 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.8 โดยภาคใต้ตอนบนเพิ่มขึ้น ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.8 13.2 และ 12.1 ตามลำดับ ส่วนภาคใต้ตอนล่างเพิ่มขึ้นในจังหวัดสตูล พัทลุง และนราธิวาส โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 2.5 และ 2.2 ตามลำดับระดับราคา ในเดือนตุลาคม 2550 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของภาคใต้อยู่ที่ร้อยละ 2.5 เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจากร้อยละ 1.6 ในเดือนก่อน เป็นผลจากสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ตามการเพิ่มขึ้นของหมวดข้าวสารเหนียว (45.6%) หมวดเป็ด ไก่ (9.7%) หมวดไข่และ ผลิตภัณฑ์นม (6.9%) และหมวดผักและผลไม้ (2.7%) เป็นสำคัญ ส่วนสินค้าในหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 ผลจากดัชนีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นตามภาวะราคาน้ำมันใน ตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของภาคใต้อยู่ที่ร้อยละ 1.4 เร่งขึ้นเล็กน้อยการค้าต่างประเทศ เดือนนี้มีมูลค่าการส่งออกรวม 836.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 17.1 ตามการส่งออกสัตว์น้ำแช่แข็ง ยางพารา อาหารกระป๋อง และถุงมือยาง ที่ลดลง ร้อยละ 21.2 6.4 4.2 และ 2.7 ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกดีบุก และไม้ยางพาราแปรรูปและ เฟอร์นิเจอร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.0 และ 17.2 ตามลำดับ ด้านมูลค่าการนำเข้ามีจำนวน 477.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 18.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 23.4 เป็นการเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และสัตว์น้ำแช่แข็ง เป็นสำคัญภาคการคลัง ในเดือนตุลาคม การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ ในภาคใต้ มีจำนวน 8,417.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 41.1 ตามการเบิกจ่ายเงินของคลังจังหวัด สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และปัตตานี เป็นสำคัญ และส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานตัวเลข ในปีที่แล้วต่ำ เนื่องจากภาครัฐชะลอการเบิกจ่ายงบลงทุนของเดือนตุลาคม 2549 ไปเป็นเดือน มกราคม ปี 2550 ส่วนรายได้จากการจัดเก็บภาษีมีจำนวน 2,564.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน เดียวกันปีก่อนร้อยละ 25.1 จากการเพิ่มขึ้นของภาษีสรรพากร และสรรพสามิต ร้อยละ 28.6 และ 19.6 ตามลำดับ ขณะที่จัดเก็บภาษีศุลกากรได้ลดลงร้อยละ 10.7ภาคการเงิน ณ สิ้นเดือนตุลาคม เงินฝากคงค้างของสาขาธนาคารพาณิชย์ คาดว่ามีจำนวนประมาณ 397,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.6 เนื่องจากมีการนำเงินไปลงทุนใน แหล่งอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ได้แก่ พันธบัตร หน่วยลงทุนต่างๆ และประกันชีวิตแบบสะสม ทรัพย์ เป็นต้น เงินฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นเงินฝากประจำ ทางด้านสินเชื่อคงค้างมีจำนวน ประมาณ 323,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 11.4 ส่วนใหญ่จะเป็นการ ขยายสินเชื่ออยู่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ยังคงมีความเข้มงวด และระมัดระวังใน การให้สินเชื่อมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ