ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ปี 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 30, 2009 15:33 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

นางสาวนวพร มหารักขกะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบาย สถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ระบบธนาคารพาณิชย์โดยรวมในไตรมาส 3 ปี 2552 มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์หดตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากที่สินเชื่อธุรกิจหดตัว อย่างไรก็ตาม สินเชื่อ SME เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่เงินฝากขยายตัวชะลอลง สภาพคล่องทรงตัว สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเล็กน้อย ทำให้กำไรจากการดำเนินงานค่อนข้างทรงตัว ส่งผลให้ฐานะเงินกองทุนสูงขึ้นเล็กน้อย

ในไตรมาส 3 ปี 2552 สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์หดตัวร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสินเชื่อภาคธุรกิจ (สัดส่วนร้อยละ 73.1 ของสินเชื่อรวม) หดตัวลงร้อยละ 6.5 โดยแนวโน้มคำขอสินเชื่อในไตรมาส 3 สูงขึ้นจากไตรมาสก่อน ส่วนธนาคารพาณิชย์ยังคงระมัดระวัง ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อซึ่งช่วยในการรักษาคุณภาพหนี้และอำนวยให้ NPL ยังโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม สินเชื่อ SME ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 แม้ยังหดตัวร้อยละ 8.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคแม้จะชะลอตัว แต่ก็ยังขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 7.3 เนื่องจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวได้ค่อนข้างดีที่ร้อยละ 9.4

เงินฝากขยายตัวชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.2 จากการเบิกถอนเงินของส่วนราชการตามงบประมาณ และการถอนเงินฝากของลูกค้ารายย่อยเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลและกองทุนรวม หากรวมการระดมเงินจากการออกตั๋วแลกเงิน (B/E) เข้ากับเงินฝากแล้ว สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์นับว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากและ B/E เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 85.3 ในไตรมาสก่อน เป็นร้อยละ 85.4%

ในไตรมาส 3 ปี 2552 สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงเล็กน้อยทั้ง gross และ net NPL เหลือร้อยละ 5.3 และร้อยละ 2.9 ตามลำดับ เนื่องจาก NPL รายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงประกอบกับ มีการรับชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษลดลงเช่นกัน เหลือร้อยละ 3.5 ของสินเชื่อรวม เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังคงดูแลคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด NPL ใหม่ อย่างไรก็ดี ความสามารถในการชำระหนี้และคุณภาพสินทรัพย์ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรจากการดำเนินงานใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิและเงินปันผลต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) ทรงตัวที่ร้อยละ 2.9 แต่ค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลงในไตรมาสนี้ ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 6 พันล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset - ROA) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.0 ผลกำไรที่มีอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16.5 โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Tier - 1 ratio) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.9

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ