ผลการดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 25, 2010 16:22 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 11/2553

นายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร แถลงผลการดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2552 ที่ได้รายงานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย รับทราบในการประชุมครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม พรบ. ธปท. ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่าง ต่อเนื่องจากปลายปีก่อนหน้า ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ต่อปี โดยคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 3 ครั้ง รวมร้อยละ 1.5 ต่อปี เป็นร้อยละ 1.25 ต่อปี และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำพิเศษดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2552 จนถึงสิ้นปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและดูแลเสถียรภาพของระดับราคา ทั้งนี้ ธปท.ได้ดูแลรักษา ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายและให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินอื่น ๆ เคลื่อนไหวสอดคล้องกันผ่าน หน้าต่างซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคีของ ธปท. หน้าต่างขายตราสารหนี้ ธปท. และหน้าต่างบริหาร สภาพคล่องสิ้นวัน รวมทั้งส่งเสริมให้สถาบันการเงินปรับสภาพคล่องระหว่างกันเองมากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกรรมซื้อคืนภาคเอกชน (Private Repurchase Transactions) และส่งเสริมการใช้ BIBOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกู้ยืม นอกจากนี้ ได้ผ่อนคลายระเบียบการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศและการทำธุรกรรมอนุพันธ์ของบุคคลในประเทศเพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุน รวมทั้งช่วยให้การบริหาร จัดการเงินตราต่างประเทศมีความคล่องตัวมากขึ้น สำหรับเป้าหมายการกำหนดนโยบายการเงิน ปี 2553 กนง.ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในช่วงร้อยละ 0.5-3.0 ต่อปี

การดำเนินนโยบายสถาบันการเงินได้มุ่งเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบสถาบันการเงิน ส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และพัฒนาระบบสถาบันการเงินให้มีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย โดยได้ร่วมกับกระทรวงการคลังจัดทำแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 วางกรอบการพัฒนาสถาบันการเงินให้มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งให้มีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงและมีเสถียรภาพพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในระบบการเงินโลก นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมากขึ้น เช่น หลักเกณฑ์ด้านธรรมาภิบาลของสถาบันการเงิน เป็นต้น สำหรับการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ ธปท.ได้ร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดทำโครงการให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อแก่ธุรกิจ SMEs โดยมี บสย.ค้ำประกัน ในส่วนการดูแลผู้บริโภครายย่อยได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อเพื่อรับเรื่องราวปัญหาเกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อย สำหรับฐานะของระบบสถาบันการเงินมีความเข้มแข็ง ผลการดำเนินงานมีกำไร เงินกองทุนอยู่ในระดับสูงและเกินกว่าเกณฑ์ที่กฎหมาย กำหนด การบริหารจัดการความเสี่ยงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ

ด้านนโยบายระบบการชำระเงินได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน 2553 ส่งเสริมให้มีการใช้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ด้วยบริการที่มีประสิทธิภาพ มั่นคงปลอดภัย และค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรม รวมทั้งได้เริ่มพัฒนาระบบการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค (Imaged Cheque Clearing and Archive System: ICAS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพลดระยะเวลาการเรียกเก็บให้เหลือ 1 วันทำการทั่วประเทศ และลดต้นทุนการขนส่งตัวเช็ค

นอกจากนี้ ธปท.ได้รายงานงบการเงินประจำปี 2552 ของ ธปท. ทุนสำรองเงินตรา และกิจการธนบัตร ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว โดยในปี 2552 ธปท.มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิจำนวน 7,662 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิจำนวน 12,102 ล้านบาท จากการปฏิบัติตามพันธกิจของธนาคารกลางในการดูดซับสภาพคล่องเพื่อดูแลเสถียรภาพในการดำเนินนโยบายการเงิน เนื่องจากในระหว่างปีดุลชำระเงินมีการเกินดุลในจำนวนกว่า 24 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เป็นผลให้ทุนสำรองเพิ่มขึ้น สินทรัพย์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นนี้ ธปท.บริหารจัดการมีผลกำไรในรูปสกุลเงินต่างประเทศ แต่เมื่อเทียบเป็นเงินบาทตามค่าเงินดอลลาร์ สรอ. เยน และยูโรซึ่งอ่อนค่าลง ร้อยละ 4.7, 6.8 และ 2.1 ตามลำดับ เป็นผลให้มีขาดทุนจากการตีราคาสินทรัพย์และหนี้สินจำนวน 67,175 ล้านบาท ซึ่งรับรู้เข้าส่วนของทุนตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ส่วนของทุน ณ วันสิ้นปี 2552 มียอดติดลบเพิ่มขึ้นเป็น 81,758 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานของทุนสำรองเงินตราในปี 2552 มีกำไรสุทธิ 8,567 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลกำไรจากมูลค่าทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2552 ราคาทองคำสูงขึ้นร้อยละ 25 นอกจากนี้ ทุนสำรองเงินตราไม่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายในการดูดซับสภาพคล่องซึ่งดำเนินการในส่วนของ ธปท. และ ณ วันสิ้นปี 2552 ส่วนของทุนมีจำนวน 857,058 ล้านบาท

ด้านกิจการธนบัตร ปี 2552 ธปท. ผลิตธนบัตรทุกชนิดราคาในปี 2552 จำนวน 2,757 ล้านฉบับเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 0.4 โดยมีธนบัตรที่นำออกใช้จำนวน 3,978 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 6.9 มีมูลค่ารวม 1,054,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 สำหรับธนบัตรปลอมที่ตรวจพบและจับกุมได้ในปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 12,162 ฉบับ หรือประมาณ 4 ฉบับต่อธนบัตรหมุนเวียนล้านฉบับ ลดลงจากปี 2551 ร้อยละ 42.9 ผลการดำเนินงานด้านกิจการธนบัตร ปี 2552 ธปท.มีกำไรสุทธิ 498.7 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการออกธนบัตร มีสินทรัพย์ 13,762 ล้านบาท หนี้สิน 2,786 ล้านบาท และส่วนของทุน 10,975 ล้านบาท ซึ่งจะนำส่งกำไรสุทธิเข้าเป็นทุนสำรองเงินตราต่อไป

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ