ฉบับที่ 5/2553
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนเมษายน 2553 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อน ทั้งด้านอุปสงค์และด้านการผลิต โดยการส่งออกสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงและสินค้าเกษตรชะลอลงในตลาดหลัก ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าเกษตรแปรรูปชะลอตัวตาม ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัว ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากการเบิกจ่ายโครงการต่างๆ ล่าช้า ด้านรายได้ของเกษตรกรขยายตัวจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายพื้นที่เพาะปลูก การท่องเที่ยวชะลอลงจากต้นปีจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ยังดีกว่าปีก่อน ขณะที่ดัชนีภาคการค้าขยายตัวในทุกหมวด
ทางด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนทางด้านแรงงานมยังตึงตัวและต้องการแรงงานเพื่อการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับเงินฝากและสินเชื่อขยายตัวดี
รายละเอียดของแต่ละภาคเศรษฐกิจ มีดังนี้ อุปสงค์ต่างประเทศ การส่งออกสินค้าขยายตัวดี แต่ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 62.5 เป็น 254.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. ชะลอลงในตลาดสำคัญ อาทิ อาเซียน ยุโรป และจีน สินค้าที่ชะลอตัวได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และข้าว สำหรับการส่งออกผ่านด่านชายแดนขยายตัวร้อยละ 48.2 เป็น 16.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการส่งออกไปพม่าและลาว ด้านการนำเข้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือ
เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 50.3 เป็น 110.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเป็นการขยายตัวตามการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง ขณะที่การนำเข้าผ่านด่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เป็น 7.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. เป็นผลจากการนำเข้าจากลาวที่เพิ่มขึ้น
อุปสงค์ในประเทศขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเหนือชะลอลงบ้างตามภาวะท่องเที่ยว แต่ยังเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.7 ตามการขยายตัวของปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การบริโภคสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เครื่องปรับอากาศ ขณะที่ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ ส่วนแรงกระตุ้นจากภาครัฐโดยการเบิกจ่ายเงินงบประมาณผ่านคลังจังหวัดในภาคเหนือหดตัวลงจากการเบิกจ่ายของโครงการต่าง ๆ ล่าช้าออกไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทางการเมือง
ภาคการผลิตชะลอตัว โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 47.7 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมการผลิตอาหารที่ชะลอตัว รายได้ของเกษตรกรในภาคเหนือขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.2 ตามผลผลิตพืชผลหลักที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 จากผลผลิตข้าวนาปรังและอ้อยโรงงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายพื้นที่เพาะปลูก ส่วนราคาพืชผลสำคัญลดลงร้อยละ 0.3 ตามการลดลงของราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรังเป็นสำคัญ ด้านการท่องเที่ยวของภาคเหนือชะลอลงจากต้นปีจากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง แต่ยังดี กว่าปีก่อนเป็นผลจากการส่งเสริมการขายของธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยยังเดินทางมาช่วงเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดต่างๆ ของภาคเหนือ จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานขยายตัวเกือบทุกแห่ง รวมทั้งการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีภาคการค้าภาคเหนือขยายตัวดีร้อยละ 21.9 เป็นการขยายตัวในทุกหมวดตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจแต่เริ่มชะลอตัวลงในบางหมวดจากเดือนก่อน โดยการค้าหมวดยานยนต์ขยายตัวตาม การจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และการค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง หมวดการค้าส่งเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าขั้นกลาง อาทิ วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มสินค้าไม่คงทน อาทิ วัตถุดิบการเกษตร หนังสือและอุปกรณ์การเรียน แต่สำหรับหมวดค้าหมวดค้าปลีก ยังขยายตัวดี แต่เริ่มชะลอลงจากเดือนก่อน
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.5 ตามราคาอาหาร ผักผลไม้ แป้ง เนื้อสัตว์ และน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 0.1
การจ้างงานในภาคเหนือเดือนมีนาคม 2553 ยัง ตึงตัวและต้องการแรงงานเพื่อการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ส่วนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเพียงสิ้นเดือนเมษายน 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นจำนวน 715,580 คน
เงินฝากที่สาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือเพียงสิ้นเดือนมีนาคม 2553 มีทั้งสิ้น 398,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.5 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินฝากออมทรัพย์ของส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านเงินให้สินเชื่อมียอดคงค้าง 316,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 โดยเพิ่มขึ้นมากในสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลโดยเฉพาะการซื้อขายหรือเช่าซื้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ เพื่อที่อยู่อาศัย และการบริโภคส่วนบุคคลอื่นๆ
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : คุณทวีศักดิ์ ใจคำสืบ
โทร 0 5393 1162 E-mail : [email protected]
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย