รายงานผลการเดินทางไปราชการต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 16:22 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอรายงานสรุปผลการเดินทางไปราชการต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เพื่อประชุมเจรจาแนวทางการบริหารจัดการระบบธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก และศึกษาช่องทางการขยายการค้า ระหว่างวันที่ 10 — 12 ตุลาคม 2553 ดังนี้

ข้อเท็จจริง

1. การศึกษาช่องทางการขยายการค้า ณ เมืองอี้อู่ มณฑล เจ้อ เจียง ซึ่งเป็นเมืองแห่งการค้ามีลักษณะเป็นตลาดค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดใหญ่ที่รวบรวมสินค้าหลากหลายจากทุกภูมิภาคในประเทศและต่างประเทศให้อยู่ภายในบริเวณเดียวกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ตลาดอี้อู่” ปัจจุบันเป็นแหล่งรวมสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และได้รับการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติ (UN) และธนาคารโลก (Worlf Bank) ว่าเป็นตลาดขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 4 ล้านตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกัน รวม 4 อาคาร ภายในมีร้านค้าส่ง-ค้าปลีกรวม 62,000 ร้านค้า และมีสินค้ามากกว่า 1.7 ล้านรายการ จากแหล่งผลิตที่หลากหลายตามความชำนาญ (Specialization) ของแต่ละพื้นที่ โดยสินค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 60 ใช้วัตถุดิบและผลิตในมณฑลเจ้อเจียง อาทิ เครื่องชงกาแฟ เครื่องชา สินค้าถ้วยชาม เครื่องใช้ในครัวเรือน ฯลฯ สินค้าอีกร้อยละ 40 ผลิตจากมณฑลใกล้เคียง อาทิ สินค้านาฬิกาจากมณฑลฝูเจี้ยน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องหนัง/กระเป๋าหนังจากมณฑลกวางตุ้ง เป็นต้น

2. การประชุมเจรจาและพบหารือผู้บริหารและผู้ประกอบธุรกิจ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และคณะได้รับการต้อนรับจากรองนายกเทศมนตรี เมืองอี้อู่ (Mr. Ji Jin Pu) อธิบดี (Mr. Lou Zhang neng) และรองอธิบดี (Mr. Yao Xian Ming) สำนักการค้าระหว่างประเทศ และได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจจากนครเซี่ยงไฮ้และเมืองอี้อู่ โดยมีประเด็นการหารือ ดังนี้

1) การขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยในเมืองอี้อู่ โดยสินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ ลำไยอบแห้ง และสินค้าเกษตรแปรรูปอื่น ๆ ซึ่งจะต้องมีการสร้างตราสินค้า (Brand) แสดงให้เห็นว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าอาหารที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน ทั้งนี้ การนำสินค้าเกษตรของไทยเข้าร่วมแสดงและวางจำหน่ายในตลาดอี้อู่จะเป็นช่องทางการกระจายสินค้าที่ดี ซึ่งผู้บริหารตลาดอี้อู่ได้จัดสรรพื้นที่สำหรับการทดลองจำหน่ายเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซียเหมิน จัดทำแผนการขยายตลาดสินค้าการเกษตรแปรรูปในตลาดอี้อู้ เพื่อสร้างความร่วมมือและจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป

2) การอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจจีนที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพื่อเชื่อมโยงการค้าระหว่างเมืองอี้อู่กับไทย แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการขอวีซ่าระยะยาว การขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย และการให้สิทธิพิเศษทางด้านมาตรการภาษี ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงการได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษในการลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้ให้ความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ไทย-จีนและความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจจีนกับไทยจะต้องได้รับการแก้ไขปัญหาเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน ให้เจริญเติบโต ต่อไป

ข้อคิดเห็น

ตลาดอี้อู่ เป็นตลาดการค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ โดยเป็นแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศตามความชำนาญเฉพาะของแต่ละพื้นที่ เป็นที่สนใจของพ่อค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สามารถใช้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมการจัดตั้งตลาดการค้าส่ง-ค้าปลีกที่ครบวงจรในประเทศไทยได้ ดังนี้

  • เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าพื้นเมืองและสินค้านวัตกรรมตามความชำนาญเฉพาะในแต่ละพื้นที่จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งสามารถที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาคอาเซียนได้ต่อไปในอนาคต
  • เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวและซื้อสินค้า

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ