มาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 204 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 16:33 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลมาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 204 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้

ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ได้ประเมินและคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณของสินค้าและบริการ โดยได้ปรับเปลี่ยนการจัดระดับความสำคัญของสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม เป็นดังนี้

1. กลุ่ม sensitive List (SL) สินค้า 9 รายการ ได้แก่ (1) อาหารปรุงสำเร็จ ราคาวัตถุดิบหลัก คือ เนื้อสัตว์และพืชผักทุกชนิดโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง (2) น้ำตาลทราย ราคาน้ำตาลทรายยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง (3) น้ำมันเบนซิน (4) น้ำมันดีเซล เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลยุโรปและเงินเยน รวมทั้งการประท้วงในฝรั่งเศส ที่มีผลทำให้ปดโรงกลั่น 8 แห่ง จากทั้งหมด 12 แห่ง พร้อมทั้งการปิดท่าเรือขนส่ง (5) เหล็กเส้น (6) เหล็กแผ่น (รีดร้อนรีดเย็นและสแตนเลส) ราคาวัตถุดิบทรงตัว ขณะที่ความต้องการจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องยังคงมีอยู่ แต่จากภาวะน้ำท่วมทำให้มีความต้องการใช้เหล็กเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน (7) ปูนซีเมนต์ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ผู้ผลิต ผลิตถ่านหินออกสู่ตลาดน้อยลงทำให้ราคาค่าพลังงานถ่านหินปรับสูงขึ้น และเมื่อน้ำท่วมลดลง จะมีการใช้มากขึ้น (8) ทราย เนื่องจากภาวะน้ำท่วม ทำให้มีความต้องการใช้ทรายมากขึ้น อาจฉวยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นและ (9) สายไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบได้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณสต๊อกทองแดงของผู้ใช้ลดลงและความต้องการใช้ของผู้ใช้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์รับส่งโทรสาร สืบเนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและส่งผลต่อราคาสินค้า

2. กลุ่ม Priority Watch List (PWL) สินค้า 12 รายการ ได้แก่ (1) นมผง ราคานมผงขาดมันเนยลดลง เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก แต่ยังอยู่ในระดับสูง (2) น้ำดื่มบรรจุภาชนะผนึก ราคาเม็ดพลาสติกทรงตัวแต่ความต้องการบริโภคน้ำดื่มบรรจุภาชนะผนึกมีมากขึ้น (3) น้ำมันพืช ราคาวัตถุดิบสำคัญคือ น้ำมันปาล์มดิบ ยังเคลื่อนไหวขึ้น-ลงในระดับสูง เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้มีอย่างต่อเนื่อง และเมล็ดถั่วเหลือง ราคาปรับสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย เมล็ดถั่วเหลืองงวดใหม่ยังออกสู่ตลาดไม่มากนัก ปริมาณความต้องการใช้มากขึ้น เพื่อใช้ผลิตเป็นอาหารและพลังงาน (4) ก๊าซ LPG หุงต้ม ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบและการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชีย (5) เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก (6) เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม ความต้องการใช้และราคาวัตถุดิบเริ่มลดลงในช่วงไตรมาสที่ 4 (7) เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ราคาค่าพลังงานถ่านหินอยู่ในระดับทรงตัวและปริมาณการใช้ปกติ (8) คอนกรีตบล็อก เนื่องจากภาวะน้ำท่วมความต้องการใช้มากขึ้น ราคาคอนกรีตบล็อกอาจฉวยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นและสูงขึ้น (9) ยาแก้ปวด (10) ยาแก้ไข้หวัด ผลจากภาวะน้ำท่วมกอปรกับสภาพอากาศเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ความต้องการใช้ยาแก้ปวดและยาแก้ไข้หวัดมีมากคาดว่าราคาจำหน่ายจะปรับสูงขึ้น (11) ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากโรงงานผลิตวัตถุดิบคือไกลโฟเสทของจีนบางรายถูกปิด เป็นผลมาจากเรื่องสภาพแวดล้อมทำให้ปริมาณเข้าสู่ตลาดน้อยลง และ (12) ปุ๋ยเคมี ราคาปุ๋ยยูเรียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้นและบริการ 1 รายการ ได้แก่บริการซ่อมรถ

3. กลุ่ม Watch List (WL) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวเป็นปกติยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีปัญหาทั้งด้านราคาและปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ซึ่งจะทำการติดตาม ตามปกติ จำนวน 183 รายการ และ บริการ 18 รายการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ