แต่งตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 17:30 —มติคณะรัฐมนตรี

1. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้

1. นางเพ็ญศรี รอดมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ชีววิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์เชี่ยวชาญ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ชีววิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553

2. นางอาภาศรี ลุสวัสดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารประสาทวิทยา) กลุ่มงานกุมารประสาทวิทยา กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารประสาทวิทยา) กลุ่มงานกุมารประสาทวิทยา กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2553

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

2. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายศุภกร วงศ์ปราชญ์ ผู้อำนวยการสำนัก (อำนวยการ ระดับสูง) สำนักการลูกเสือยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ ระดับสูง) กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

3. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปรีชา วัชราภัย)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายปรีชา วัชราภัย ให้ดำรงตำแหน่ง ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นไป

4. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ จำนวน 6 ราย ดังนี้

1. นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน สืบแทน นางอัจรา เสริบุตร ที่เกษียณอายุราชการ

2. นายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สืบแทน นายกฤต ไกรจิตติ

3. นายอภิชาติ ชินวรรโณ รองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สืบแทน นายพิศาล มาณวพัฒน์

4. นายประวิตร์ ชัยมงคล อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สืบแทน นายอภิชาติ ชินวรรโณ

5. นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ กงสุลใหญ่ (นักบริหารการทูต ระดับต้น) สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา สืบแทน นายประวิตร์ ชัยมงคล

6. นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับต้น) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล สืบแทน นายชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ ที่เกษียณอายุราชการ

ทั้งนี้ การแต่งตั้งให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป

5. แต่งตั้งคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 18

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 18 จำนวน 14 คน ดังนี้ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นางสุวรรณี คำมั่น นางอัจนา ไวความดี นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ นางอัมพร นิติสิริ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายวัลลภ กิ่งชาญศิลป์ นายอรรถยุทธ ลียะวณิช นายสุเทพ ศรีเพียร นายปัณณพงศ์ อิทธิ์อรรถนนท์ นายสมพงศ์ นครศรี ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายชัยพร จันทนา นายมานะ จุลรัตน์ นายประจวบ พิกุล นายณัฎฐ์พัฒน์ ปัตตายะโก นายสุรเดช ชูมณี

6. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 309/2553 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 309/2553 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 12/2552 ลงวันที่ 9 มกราคม 2552 มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 92/2552 ลงวันที่ 7 เมษายน 2552 เรื่องแก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 12/2552 ลงวันที่ 9 มกราคม 2552 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 30/2553 ลงวันที่ 27 มกราคม 2553 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 145/2553 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2553 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ไปแล้ว นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 และข้อ 13 ของระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีจึงให้ยกเลิกคำสั่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 12/2552 ลงวันที่ 9 มกราคม 2552 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 92/2552 ลงวันที่ 7 เมษายน 2552 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 30/2553 ลงวันที่ 27 มกราคม 2553 และคำสั่งสำนักนายก รัฐมนตรี ที่ 145/2553 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2553 และมีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ดังต่อไปนี้

1. พื้นที่

1.1 รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้

เขตตรวจราชการที่ 1 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี

เขตตรวจราชการที่ 2 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง

เขตตรวจราชการที่ 3 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก สมุทรปราการ

เขตตรวจราชการที่ 5 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

เขตตรวจราชการที่ 9 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด

1.2 รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้

เขตตรวจราชการที่ 15 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน

เขตตรวจราชการที่ 16 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดน่าน พะเยา เชียงราย แพร่

เขตตรวจราชการที่ 17 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์

1.3 รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้

เขตตรวจราชการที่ 4 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี

เขตตรวจราชการที่ 10 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดหนองคาย เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู

เขตตรวจราชการที่ 18 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี

1.4 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้

เขตตรวจราชการที่ 6 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง

เขตตรวจราชการที่ 7 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง

เขตตรวจราชการที่ 8 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

1.5 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ดังนี้

เขตตรวจราชการที่ 11 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดนครพนม มุกดาหาร สกลนคร

เขตตรวจราชการที่ 12 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์

เขตตรวจราชการที่ 13 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี

เขตตรวจราชการที่ 14 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ

2. การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคตามคำสั่งนี้ หมายถึง การตรวจราชการ การขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรายงานเหตุการณ์และผลการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ยุทธศาสตร์ของชาติ ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด การประสานราชการเพื่อให้เกิดการบูรณาการยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม การเร่งรัด การติดตามผล การให้คำแนะนำช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ของรัฐใน พื้นที่ และการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

3. ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไข ตลอดจนข้อเสนอแนะต่าง ๆ อันเนื่องจากการกำกับและติดตาม การปฏิบัติราชการในเขตตรวจราชการหรือพื้นที่ในความรับผิดชอบต่อนายกรัฐมนตรี

4. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายเลขานุการของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีติดภารกิจจำเป็นเร่งด่วน สามารถมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการปฏิบัติหน้าที่แทน แล้วรายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบต่อไป

5. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการ ในจังหวัดที่เกี่ยวข้องเสนอข้อมูล อำนวยความสะดวก และ ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ด้วย

6. ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจากงบประมาณของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป โครงการเพิ่มขีดสมรรถนะในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป

7. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 313/2553 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 313/2553 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 23/2553 ลงวันที่ 25 มกราคม 2553 มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 134/2553 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2553 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ไปแล้ว นั้น

เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 15 มาตรา 38 มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 48 และมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 23/2553 ลงวันที่ 25 มกราคม 2553 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 134/2553 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2553 และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

1. ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ ดังนี้

1.1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

1.2 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี

1.3 พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์

2. ในระหว่างการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนข้างต้น จะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน

ส่วนที่ 2 นายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการ แทน นายกรัฐมนตรี

ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายก-รัฐมนตรี ให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกันตามลำดับ ดังนี้

          ลำดับที่       รองนายกรัฐมนตรี                     รองนายกรัฐมนตรีที่ปฏิบัติราชการแทน
                                                        ตามลำดับ
          1             นายสุเทพ        เทือกสุบรรณ        1.  นายไตรรงค์     สุวรรณคีรี
                                                        2.  พลตรี สนั่น      ขจรประศาสน์
          2             นายไตรรงค์    สุวรรณคีรี            1.  นายสุเทพ       เทือกสุบรรณ
                                                        2.  พลตรี สนั่น      ขจรประศาสน์
          3             พลตรี สนั่น      ขจรประศาสน์        1.  นายสุเทพ       เทือกสุบรรณ
                                                        2.  นายไตรรงค์     สุวรรณคีรี

ส่วนที่ 3 นายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติ ราชการแทนนายกรัฐมนตรี

ในกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มี ผู้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนกัน ตามลำดับ ดังนี้

          ลำดับที่       รัฐมนตรีประจำสำนัก               รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนัก
                      นายกรัฐมนตรี                    นายกรัฐมนตรีที่ปฏิบัติราชการแทน
                                                    ตามลำดับ
          1            นายสาทิตย์   วงศ์หนองเตย        1.  นายองอาจ     คล้ามไพบูลย์
                                                    2.  นายสุเทพ      เทือกสุบรรณ
          2            นายองอาจ   คล้ามไพบูลย์         1.  นายสาทิตย์     วงศ์หนองเตย
                                                    2.  นายสุเทพ      เทือกสุบรรณ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

8. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 314/2553 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 314/2553 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 4/2552 ลงวันที่ 6 มกราคม 2552 เรื่องมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 53/2552 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 25/2553 ลงวันที่ 25 มกราคม 2553 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 135/2553 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2553 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152/2553 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2553 เรื่อง แก้ไขคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ไปแล้ว นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 15 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 4/2552 ลงวันที่ 6 มกราคม 2552 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 53/2552 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 25/2553 ลงวันที่ 25 มกราคม 2553 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 135/2553 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2553 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152/2553 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2553 และมีคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1

1. รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ)

1.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

1.1.1 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์

1.1.2 คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ

1.1.3 คณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี

1.1.4 คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ

1.1.5 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

1.1.6 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

1.1.7 คณะกรรมการคดีพิเศษ

1.1.8 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ

1.1.9 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

1.1.10 รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

1.1.11 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก

1.1.12 อุปนายกสภาลูกเสือไทย

1.1.13 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

1.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.2.1 คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

1.2.2 คณะกรรมการบริหารกองทุนสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

1.2.3 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ

1.2.4 คณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์

1.2.5 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย

1.2.6 คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงแห่งชาติ

1.2.7 คณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ

1.2.8 คณะกรรมการส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ

1.2.9 คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ

1.2.10 คณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

1.2.11 คณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ

1.2.12 คณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติ

ส่วนที่ 2

2. รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี)

2.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

2.1.1 คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

2.1.2 คณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ

2.1.3 คณะกรรมการการมาตรฐานแห่งชาติ

2.1.4 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

2.1.5 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ

2.1.6 คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ

2.1.7 คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

2.1.8 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ

2.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

2.2.1 คณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

2.2.2 คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน

2.2.3 คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ

2.2.4 คณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน

2.2.5 คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ

2.2.6 คณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ

2.2.7 คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ

2.2.8 คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

2.2.9 คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร

2.2.10 คณะกรรมการว่าด้วยการประสานงานในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญหา

2.2.11 คณะกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติ

2.2.12 คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ

2.2.13 คณะกรรมการประสานการบริการด้านการลงทุน

2.2.14 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติ

2.2.15 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการพิจารณาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและการบริการของประเทศ

2.2.16 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ

ส่วนที่ 3

3. รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์)

3.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

3.1.1 คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ

3.1.2 คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและ ปราบปรามการค้ามนุษย์

3.1.3 คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

3.1.4 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน

3.1.5 คณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ

3.1.6 คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ

3.1.7 คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ

3.1.8 คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ

3.1.9 คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ

3.1.10 รองประธานสภาวิจัยแห่งชาติ

3.1.11 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

3.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

3.2.1 คณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ

3.2.2 คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

3.2.3 คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน

3.2.4 คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า

3.2.5 คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

3.2.6 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ

3.2.7 คณะกรรมการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลกิจการประปาแห่งชาติ

3.2.8 คณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

3.2.9 คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอบรมอาชีพแห่งชาติ

3.2.10 คณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ

3.2.11 คณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ

3.2.12 คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ

3.2.13 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ

ส่วนที่ 4

4. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย)

4.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

4.1.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

4.1.2 กรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

4.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

4.2.1 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย

4.2.2 คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ

4.2.3 คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ

4.2.4 คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชุน และ

4.2.5 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ

4.2.7 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์

ส่วนที่ 5

5. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์)

5.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

5.1.1 คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

5.1.2 คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

5.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

5.2.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ

5.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ

ส่วนที่ 6

6. ให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่สั่งและปฏิบัติราชการแทน นายกรัฐมนตรีในส่วนราชการใดเป็นประธาน อ.ก.พ. ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงของส่วนราชการนั้นด้วย ยกเว้น อ.ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เป็นประธาน

7. เมื่อรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจแล้ว ให้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบทุกสามสิบวัน

8. ให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในคำสั่งนี้ พิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในการยุบเลิกคณะกรรมการดังกล่าว หากเห็นว่าหมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับภารกิจของหน่วยงานอื่น หรืออาจยุบรวมคณะกรรมการชุดต่าง ๆ เข้าด้วยกัน หรือปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว โดยการยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หรือจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่โดยยึดหลักการมีผู้รับผิดชอบภารกิจอย่างชัดแจ้ง การไม่ปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกัน และการบูรณาการภารกิจให้เกิดการประสานและสอดคล้องรองรับกัน แล้วเสนอผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะ ตลอดจนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมหรือจัดทำขึ้นใหม่ต่อคณะรัฐมนตรี ในกรณีที่เห็นควร ให้คงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นๆ ไว้ตามเดิมให้รายงานเหตุผลและความจำเป็นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ