คณะรัฐมนตรีรับทราบการลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
ตามหนังสือที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2547 เห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ จำนวน 320.00 ล้านบาท และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว นั้น
กระทรวงการคลัง รายงานว่า สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินฯ กับรัฐบาล สปป.ลาว แล้ว เมื่อวันอังคารที่ 24 เมษายน 2550 เวลา 14.30 น. โดยรัฐบาล สปป. ลาว ได้มอบหมายให้ ฯพณฯ นายอ้วน พรหมจักร์ เอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในสัญญาการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโครงการปรับปรุงสนามบินปากเซร่วมกับร้อยโทนพดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการ สพพ.
สำหรับสาระสำคัญของการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ สรุปได้ดังนี้
1. โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะปรับปรุงสนามบินปากเซให้ได้มาตรฐานสนามบินระหว่างประเทศ เพื่อให้รองรับเครื่องบินที่มีขนาดบรรจุผู้โดยสารได้จำนวน 150 ที่นั่ง โดยจะดำเนินการขยายทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดเครื่องบิน และติดตั้งอุปกรณ์การบินที่จำเป็น รวมถึงปรับปรุงหอบังคับการบินใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของสนามบิน และให้สอดคล้องกับข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
2. เงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือ
- วงเงิน 320 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินกู้ร้อยละ 70 และวงเงินให้เปล่าร้อยละ 30 คิดเป็นวงเงินกู้ 224 ล้านบาท และวงเงินให้เปล่า 96 ล้านบาท
- อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ต่อปี
- ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้ 4 ปี
- ระยะเวลาการให้กู้ 30 ปี โดยมีกำหนดชำระหนี้เงินต้นงวดแรกเดือนพฤศจิกายน 2560 และงวดสุดท้ายเดือนพฤศจิกายน 2580
- ระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี
- เงื่อนไขในการจัดซื้อจัดจ้าง จะต้องใช้บริษัทที่ปรึกษาและผู้รับเหมาไทย ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย มีสถานะทางการเงินและการปฏิบัติงานดี การบริหารจัดการเป็นที่ยอมรับ และผู้ถือหุ้นข้างมากเป็นผู้มีสัญชาติไทย รวมทั้งที่ปรึกษาและผู้รับเหมาต้องซื้อสินค้า อุปกรณ์ และบริการที่จำเป็นต้องใช้ในโครงการจากประเทศไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าสินค้า อุปกรณ์ และบริการที่จัดซื้อภายใต้สัญญาจ้าง ทั้งนี้ ในการประมูลงานตามโครงการ ที่ปรึกษาและผู้รับเหมาไทยอาจร่วมกับที่ปรึกษาและผู้รับเหมาของ สปป.ลาว ซึ่งมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานโครงการ
- วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง จะดำเนินการคัดเลือกที่ปรึกษาและประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมา ตามระเบียบของ สปป.ลาว โดยก่อนที่ สปป.ลาว จะมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ที่ปรึกษาและผู้รับเหมาทราบ สปป.ลาว ต้องจัดส่งเอกสารประกอบการประกวดราคาและรายงานการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด พร้อมเหตุผลประกอบการคัดเลือกให้ สพพ. หากไม่มีข้อคัดค้านต่อเอกสารที่กล่าว สพพ. จะแจ้ง สปป.ลาว เป็นลายลักษณ์อักษร และหลังจาก สปป.ลาว ทำสัญญากับที่ปรึกษาและผู้รับเหมา จะต้องจัดส่งสำเนาสัญญาจ้างให้ สพพ. เพื่อพิจารณาว่าสอดคล้องกับสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินฯ แล้วมีหนังสือแจ้งตอบ สปป.ลาว ต่อไป
3. ระยะเวลาการก่อสร้าง 24 เดือน (คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2552)
4. ประโยชน์ที่จะได้รับ ได้แก่
- เพิ่มขีดความสามารถของสนามบินปากเซให้ได้มาตรฐานสากล
- อำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางและการขนส่งระหว่าง สปป.ลาว และประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวในทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการบริการ
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ตอนใต้ของ สปป.ลาว ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศไทย
- เพิ่มปริมาณการจ้างงานและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประชาชนในภูมิภาค
- เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
ตามหนังสือที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2547 เห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ จำนวน 320.00 ล้านบาท และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว นั้น
กระทรวงการคลัง รายงานว่า สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินฯ กับรัฐบาล สปป.ลาว แล้ว เมื่อวันอังคารที่ 24 เมษายน 2550 เวลา 14.30 น. โดยรัฐบาล สปป. ลาว ได้มอบหมายให้ ฯพณฯ นายอ้วน พรหมจักร์ เอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในสัญญาการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโครงการปรับปรุงสนามบินปากเซร่วมกับร้อยโทนพดล พันธุ์กระวี ผู้อำนวยการ สพพ.
สำหรับสาระสำคัญของการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ สรุปได้ดังนี้
1. โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะปรับปรุงสนามบินปากเซให้ได้มาตรฐานสนามบินระหว่างประเทศ เพื่อให้รองรับเครื่องบินที่มีขนาดบรรจุผู้โดยสารได้จำนวน 150 ที่นั่ง โดยจะดำเนินการขยายทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดเครื่องบิน และติดตั้งอุปกรณ์การบินที่จำเป็น รวมถึงปรับปรุงหอบังคับการบินใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของสนามบิน และให้สอดคล้องกับข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
2. เงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือ
- วงเงิน 320 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินกู้ร้อยละ 70 และวงเงินให้เปล่าร้อยละ 30 คิดเป็นวงเงินกู้ 224 ล้านบาท และวงเงินให้เปล่า 96 ล้านบาท
- อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ต่อปี
- ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้ 4 ปี
- ระยะเวลาการให้กู้ 30 ปี โดยมีกำหนดชำระหนี้เงินต้นงวดแรกเดือนพฤศจิกายน 2560 และงวดสุดท้ายเดือนพฤศจิกายน 2580
- ระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี
- เงื่อนไขในการจัดซื้อจัดจ้าง จะต้องใช้บริษัทที่ปรึกษาและผู้รับเหมาไทย ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย มีสถานะทางการเงินและการปฏิบัติงานดี การบริหารจัดการเป็นที่ยอมรับ และผู้ถือหุ้นข้างมากเป็นผู้มีสัญชาติไทย รวมทั้งที่ปรึกษาและผู้รับเหมาต้องซื้อสินค้า อุปกรณ์ และบริการที่จำเป็นต้องใช้ในโครงการจากประเทศไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าสินค้า อุปกรณ์ และบริการที่จัดซื้อภายใต้สัญญาจ้าง ทั้งนี้ ในการประมูลงานตามโครงการ ที่ปรึกษาและผู้รับเหมาไทยอาจร่วมกับที่ปรึกษาและผู้รับเหมาของ สปป.ลาว ซึ่งมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานโครงการ
- วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง จะดำเนินการคัดเลือกที่ปรึกษาและประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมา ตามระเบียบของ สปป.ลาว โดยก่อนที่ สปป.ลาว จะมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ที่ปรึกษาและผู้รับเหมาทราบ สปป.ลาว ต้องจัดส่งเอกสารประกอบการประกวดราคาและรายงานการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด พร้อมเหตุผลประกอบการคัดเลือกให้ สพพ. หากไม่มีข้อคัดค้านต่อเอกสารที่กล่าว สพพ. จะแจ้ง สปป.ลาว เป็นลายลักษณ์อักษร และหลังจาก สปป.ลาว ทำสัญญากับที่ปรึกษาและผู้รับเหมา จะต้องจัดส่งสำเนาสัญญาจ้างให้ สพพ. เพื่อพิจารณาว่าสอดคล้องกับสัญญาให้ความช่วยเหลือทางการเงินฯ แล้วมีหนังสือแจ้งตอบ สปป.ลาว ต่อไป
3. ระยะเวลาการก่อสร้าง 24 เดือน (คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2552)
4. ประโยชน์ที่จะได้รับ ได้แก่
- เพิ่มขีดความสามารถของสนามบินปากเซให้ได้มาตรฐานสากล
- อำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางและการขนส่งระหว่าง สปป.ลาว และประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวในทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการบริการ
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ตอนใต้ของ สปป.ลาว ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศไทย
- เพิ่มปริมาณการจ้างงานและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประชาชนในภูมิภาค
- เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--