คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลมาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 204 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนมกราคม 2554 ของกระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
ตามที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน ได้มีการกำหนดระดับความสำคัญของสินค้าที่ต้องติดตามดูแล 204 รายการและบริการ 20 รายการ เป็นประจำทุกเดือนตามสถานการณ์หรือปัจจัยการผลิตที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นเครื่องมือในการ ติดตามดูแลราคาสินค้าและเป็นสัญญาณเตือนภัยในระดับปฏิบัติการซึ่งได้รายงานการจัดระดับความสำคัญของสินค้า ให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกเดือนแล้ว นั้น
การดำเนินการสำหรับในเดือนมกราคม 2553 ได้ประเมินและคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณของสินค้าและบริการ โดยได้ปรับเปลี่ยนการจัดระดับความสำคัญของสินค้าทั้ง 3 กลุ่มเป็นดังนี้
1. กลุ่ม Sensitive List (SL) สินค้า 9 รายการ ได้แก่ (1) น้ำตาลทราย เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายยังทรงตัวอยู่ ในระดับสูง แม้ว่าราคาวัตถุดิบหลัก คือ อ้อย จะปรับตัวลดลง เนื่องจากพื้นที่ปลูกอ้อยมีมากขึ้น (2) น้ำมันพืช เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับสูงขึ้น เพราะปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการมีอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตน้ำมันพืชที่ใช้บริโภค และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศให้สูงขึ้นด้วย (3) น้ำมันเบนซิน (4) น้ำมันดีเซล โดยราคาในตลาดโลกมี แนวโน้มสูงขึ้นมาก เป็นผลจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติทำให้ปริมาณความต้องการของจีนและภูมิภาคในยุโรปเพิ่มขึ้น (5) เหล็กเส้น (6) เหล็กแผ่น (รีดร้อนรีดเย็น และ สแตนเลส) ราคาวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนพฤศจิกายน 2553 เนื่องจากความต้องการของผู้ผลิตได้เริ่มกลับมาซื้อวัตถุดิบดิบเพื่อเพิ่มปริมาณคงคลัง (7) ปูนซีเมนต์ ราคาถ่านหินซึ่งเป็นพลังงานสำคัญที่ใช้ในการผลิตมีราคาสูงขึ้นจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว (8) สายไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นและสต๊อกของทองแดงลดลง อีกทั้งมีการเก็งกำไรค่อนข้างสูง (9) ปุ๋ยเคมี ด้วยราคาแม่ปุ๋ยยูเรียในตลาดโลกปรับสูงขึ้นตามภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่สูงขึ้น กอปรกับความต้องการใช้ปุ๋ยมีมากเป็นผลจากการเร่งเพาะปลูกพืชพลังงานทดแทนและบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์รับส่งโทรสาร
2. กลุ่ม Priority Watch List (PWL) สินค้า 6 รายการ ได้แก่ (1) อาหารปรุงสำเร็จ ราคาวัตถุดิบหลักคือ เนื้อสัตว์ ยังคงอยู่ในระดับสูง(2) น้ำดื่มบรรจุภาชนะผนึก ราคาน้ำดื่มบรรจุขวดก็ยังคงทรงตัวในระดับสูง แม้ราคาเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบของภาชนะบรรจุได้ปรับลดลงเพียงเล็กน้อย (3) ก๊าซ LPG หุงต้ม ความต้องการใช้ LPG เพิ่มสูงขึ้นทั้งในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาว (4) ยางรถยนต์ เนื่องจากยางธรรมชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตยางรถยนต์มีราคาสูงขึ้นเพราะความต้องการยางธรรมชาติในตลาดต่างประเทศยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณยางธรรมชาติจากแหล่งผลิตสำคัญ คือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ออกสู่ตลาดน้อย (5) เหล็กโคร้างสร้างรูปพรรณราคายังคงมีความผันผวนอยู่ ราคาวัตถุดิบคือ เหล็กแผ่น รีดร้อนในประเทศทรงตัว จากภาวะการค้าซบเซา ถึงราคาวัตถุดิบที่นำเข้าเพิ่มสูงขึ้นก็ตามแต่ไม่สามาถปรับเพิ่มราคาได้ (6) ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช แม้ว่าความต้องการใช้ยังมีอยู่ปริมาณสินค้ายังคงมีเหลืออยู่มาก จากการชะลอใช้ในช่วงที่ผ่านมาเพราะภัย ธรรมชาติและ บริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการซ่อมรถ
3. กลุ่ม Watch List (WL) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวเป็นปกติยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีปัญหา ทั้งด้านราคาและปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ซึ่งจะทำการติดตาม ตามปกติ จำนวน 189 รายการ และบริการ 18 รายการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 มกราคม 2554--จบ--