กรอบการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงด้านการขนส่งทางบก ระหว่างไทย-ลาว-จีน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 9, 2011 14:58 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกรอบการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงด้านการขนส่งทางบก ระหว่างไทย-ลาว-จีน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้นำเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญฯ ต่อไป

ข้อเท็จจริง

กระทรวงคมนาคมรายงานว่า

1. สืบเนื่องจากประเทศไทย ลาว เวียดนาม ได้ร่วมลงนามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างประเทศไทย-ลาว-เวียดนาม เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2542 ต่อมาประเทศกัมพูชา พม่า และจีนได้ร่วมเป็นภาคีความตกลงฯและเปลี่ยนชื่อเป็นความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Cross Border Transport Agreement: CBTA) ครอบคลุมการขนส่งสินค้า ผู้โดยสาร และส่งเสริมการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ซึ่งประเทศภาคีความตกลง CBTA ได้เจรจาในรายละเอียดของภาคผนวกและพิธีสารแนบท้ายความตกลง CBTA แล้วเสร็จทั้ง 20 ฉบับ และได้มีการลงนามครบทุกฉบับ เมื่อปี 2550 ความตกลง CBTA จึงได้ข้อยุติแล้ว อย่างไรก็ตามความตกลงฯ จะมีผลในทางปฎิบัติต่อเมื่อประเทศสมาชิกทุกประเทศให้สัตยาบันต่อภาคผนวกและพิธีสารครบทุกฉบับ โดยประเทศไทยได้ให้สัตยาบันแล้ว จำนวน 14 ฉบับ สำหรับภาคผนวกฉบับที่เหลือจะต้องออกกฎหมายเพื่ออนุวัติการภาคผนวกก่อนการดำเนินการให้สัตยาบัน

2. ธนาคารพัฒนาเอเชียเห็นว่าควรมีการเริ่มดำเนินการตามความตกลง CBTA ที่บริเวณจุดผ่านแดนนำร่องระหว่างประเทศภาคีคู่สัญญาที่มีดินแดนติดต่อกัน ได้แก่ ลาว-เวียดนาม ไทย-ลาว และ ไทย-กัมพูชา

3. ในส่วนของประเทศไทยได้จัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (The Initial Implementation of the CBTA: IICBTA) ณ จุดผ่านแดน มุกดาหาร-สะหวันนะเขต (ไทย-ลาว) และจุดผ่านแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต (ไทย-กัมพูชา) ลงนามเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 และบันทึกความเข้าใจ IICBTA ระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม ณ จุดผ่านแดน มุกดาหาร-สะหวันนะเขต (ไทย-ลาว) และจุดผ่านแดน แดนสะหวัน-ลาวบาว (ลาว-เวียดนาม) ลงนามเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2550 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามความตกลง CBTA ในแนวเส้นทางเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC) โดยได้มีการเปิดเดินรถขนส่งระหว่างกันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552

4. เนื่องจากการดำเนินการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ-ห้วยทราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง R3 (กรุงเทพฯ-คุนหมิง) ภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2555 ประเทศสมาชิก GMS จะสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทาง R3 (กรุงเทพฯ-สปป.ลาว-คุนหมิง) ได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยย่นระยะเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และทำให้ประชาชนในอนุภูมิภาคสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวกยิ่งขึ้น กระทรวงคมนาคมจึงเห็นสมควรให้มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดการเดินรถขนส่งสินค้าและคนโดยสาร ระหว่างไทย-ลาว-จีน ในเส้นทางกรุงเทพฯ-สปป.ลาว-คุนหมิง โดยให้มีการดำเนินการจัดทำความตกลงระหว่างไทย-ลาว-จีน ในลักษณะเดียวกับที่ไทยได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ IICBTA ระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม ทั้งนี้ การดำเนินการเจรจาจัดทำความตกลงจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2554 เพื่อที่ทั้งสามประเทศจะสามารถเตรียมการในการดำเนินการตามความตกลงฯ ได้ทันทีที่มีการเปิดใช้สะพานดังกล่าว

สาระสำคัญของเรื่อง

1. วัตถุประสงค์ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและคนโดยสาร ระหว่างไทย-ลาว-จีน ในเส้นทาง R3 (กรุงเทพฯ-สปป.ลาว-คุนหมิง)

2. สิทธิการจราจร การอนุญาตให้มีการประกอบการขนส่งทางถนนของสินค้าและบุคคลระหว่างไทย-ลาว-จีน ตามแนวเส้นทางเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และให้มีการยอมรับผู้ประกอบการขนส่งซึ่งได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของแต่ละภาคี

3. การอำนวยความสะดวกพิธีการข้ามแดน การยอมรับการตรวจพร้อมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตั้งเป้าหมายให้มีการตรวจสอบสินค้าเพียงครั้งเดียวต่อไปในอนาคต

4. การขนส่งบุคคลข้ามแดน การนำหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกมาใช้สำหรับการขนส่งบุคคลข้ามแดน

5. การขนส่งสินค้าข้ามแดน การยกเว้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้า หรือคอนเทนเนอร์ที่ติดตราประทับศุลกากรที่ใช้ในการขนส่งผ่านแดนสำหรับการขนส่งสินค้าอันตรายจะอนุญาตเป็นกรณี ๆ ไป และการให้สิทธิพิเศษในการตรวจปล่อยสินค้าเน่าเสียง่ายข้ามแดน

6. การยอมรับรถ การยอมรับหนังสือรับรองการจดทะเบียน/แผ่นป้ายทะเบียนและหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถของภาคีอื่น การยอมรับใบอนุญาตขับรถในประเทศซึ่งกันและกัน

7. บทเบ็ดเตล็ด การกำหนดอัตราค่าบริการการขนส่งให้เป็นไปตามกลไกตลาด การจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทย-ลาว-จีน เพื่อควบคุมและติดตามการปฏิบัติตามความตกลงฯ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ