รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย-พม่า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 9, 2011 15:02 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบบันทึกการหารือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า และเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้นำบันทึกการหารือฯ และร่างความตกลงฯ ในเรื่องนี้เสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนมอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเพื่อให้มีการลงนามความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างไทย-พม่า และแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

1. บันทึกการหารือฯ มีสาระสำคัญดังนี้

1.1 คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันในการจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศฉบับใหม่ เพื่อใช้แทนความตกลงฯ ฉบับเดิม ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งกฎหมายภายในของทั้งสองฝ่าย

1.2 สิทธิความจุความถี่และสายการบินที่กำหนด คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายยืนยันให้คงสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 3/4 และ 5 ไว้เช่นเดิม ซึ่งกำหนดให้สายการบินที่กำหนดแต่ละฝ่ายสามารถทำการบินรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 3 และ 4 ได้อย่างไม่จำกัดเที่ยวบินและแบบอากาศยาน และมีสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ในสองจุดระหว่างทางใด ๆ และ/หรือสองจุดพ้นใดๆ โดยมีสิทธิรับขนจุดละไม่เกิน 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ พร้อมทั้งยืนยันการแจ้งแต่งตั้งสายการบินที่กำหนดของตน

1.3 ข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือ/การทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้สายการบินที่กำหนดแต่ละสายสามารถเข้าร่วมจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทางการตลาดกับสายการบินของภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือสายการบินอื่นใดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ทั้งนี้ โดยมีเงื่อนไขว่า สายการบินทุกสายที่เข้าร่วมต้องได้รับการอนุญาตที่เหมาะสมและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ใช้โดยทั่วไปในการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือเช่นว่านั้น

1.4 การใช้อากาศยานเช่า คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้สายการบินที่กำหนดของภาคีผู้ทำความตกลงทั้งสองสามารถใช้อากาศยานเช่า ทั้งแบบเช่าเฉพาะอากาศยานและแบบเช่าอากาศยานพร้อมลูกเรือ ในการดำเนินบริการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศทั้งสองหรือพ้นไป ข้อตกลงในการเช่าอากาศยานนั้น จะต้องยื่นขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่การเดินอากาศของทั้งสองฝ่าย

1.5 เรื่องอื่น ๆ คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะส่งเสริมให้สายการบินที่กำหนดของทั้งสองฝ่ายหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดทำความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเสริมสร้างให้เกิดโอกาสที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกันในตลาดและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

2. ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้

2.1 ภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายมีสิทธิที่จะกำหนดสายการบินสายหนึ่งหรือหลายสาย เพื่อความประสงค์ในการดำเนินบริการที่ตกลงตามความตกลงฉบับนี้ และมีสิทธิเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงการกำหนดสายการบินดังกล่าว โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง การกำหนดสายการบินเช่นว่านั้น จะมีผลเมื่อมีการแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างเจ้าหน้าที่การเดินอากาศของภาคีผู้ทำความตกลงทั้งสองฝ่าย (ร่างข้อ 3)

2.2 กฎหมายและข้อบังคับของภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายหนึ่ง ซึ่งใช้บังคับกับการเข้ามาและการออกจากอาณาเขตของตนของอากาศยานซึ่งใช้ในบริการเดินอากาศระหว่างประเทศ หรือการทำการบินและการเดินอากาศของอากาศยานเช่นว่านั้นในขณะที่อยู่ในอาณาเขตนั้น จะใช้บังคับแก่สายการบินที่กำหนดของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งด้วย (ร่างข้อ 5)

2.3 ใบสำคัญสมควรเดินอากาศ ใบสำคัญความสามารถ และใบอนุญาตที่ภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายหนึ่งออกให้หรือกระทำให้สมบูรณ์ และยังคงมีผลใช้บังคับ จะได้รับการยอมรับนับถือจากภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่า ข้อกำหนดในการออกให้หรือกระทำให้สมบูรณ์ซึ่งใบสำคัญหรือใบอนุญาตเช่นว่านั้น จะต้องเท่าเทียมหรือเหนือกว่ามาตรฐานขั้นต่ำซึ่งอาจกำหนดขึ้นตามอนุสัญญา (ร่างข้อ 7)

2.4 ห้ามมิให้ภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายใดเรียกเก็บค่าภาระจากสายการบินของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งสูงกว่าที่เรียกเก็บจากสายการบินของตนที่ดำเนินบริการเดินอากาศระหว่างประเทศในลักษณะเดียวกัน (ร่างข้อ 10)

2.5 ภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายตกลงกันว่าสายการบินที่กำหนดแต่ละสายจะมีโอกาสที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกันที่จะแข่งขันในการให้บริการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศภายใต้ความตกลง และจะดำเนินการเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบหรือการปฏิบัติที่เกี่ยวกับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม (ร่างข้อ 12)

2.6 ความตกลงฉบับนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบโดยภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่าย ตามกระบวนการทางกฎหมายของตน และจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่มีหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูต เพื่อยืนยันถึงความเห็นชอบเช่นว่านั้น และจะใช้แทนความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศฉบับก่อน (ร่างข้อ 27)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ