คณะรัฐมนตรีรับทราบและอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้
1. รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ครั้งที่ 1 ที่มีวงเงินปรับลดลง 4,923.63 ล้านบาท จากวงเงินเดิม 1,296,427.90 ล้านบาท เหลือ 1,291,504.27 ล้านบาท
2. รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงินแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
3. อนุมัติการกู้เงิน การค้ำประกัน และการให้กู้ต่อของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ปรับปรุงครั้งที่ 1 รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจตามรายการที่ได้บรรจุไว้ในแผนการบริหารความเสี่ยง (แผนงานย่อยที่ 3) โดยในการกู้เงินเพื่อ Refinance ให้กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจสามารถปรับเปลี่ยนแหล่งเงินกู้จากเงินกู้สกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินกู้สกุลเงินบาท (Baht Refinance) ได้
4. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการค้ำประกัน การกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงินในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ปรับปรุงครั้งที่ 1 โดยหากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ
สาระสำคัญของเรื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะรายงานว่าคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวงเงินกู้ใหม่และปรับเพิ่มรายการการบริหารความเสี่ยง จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2554 เห็นชอบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ครั้งที่ 1 โดยเป็นการปรับปรุงวงเงินในแผนการก่อหนี้ใหม่ และปรับเพิ่มรายการในแผนการบริหารความเสี่ยง
หลังการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ครั้งที่ 1 จะทำให้ภาพรวมของแผนฯ มี วงเงินลดลง 4,923.63 ล้านบาท จากเดิม 1,296,427.90 ล้านบาท หรือ 1,291,504.27 ล้านบาท และทำให้วงเงินที่รัฐวิสาหกิจขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันจากเดิม 162,791.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,976.36 ล้านบาท เป็น 166,768.14 ล้านบาท ซึ่งสรุปได้ ดังนี้
วงเงินปรับปรุงครั้งที่ 1 คำขอให้ กค. ค้ำประกัน รายการแผน วงเงินเดิม ในประเทศ ต่างประเทศ รวม การ ขอค้ำ/กู้ต่อ ไม่ขอค้ำ เปลี่ยนแปลง 1.แผนการก่อหนี้ใหม่ - 607,527.80 555,254.07 47,350.10 602,604.17 4,923.63 57,287.64 22,416.53 1. รัฐบาล - 10,385.71 542,748.00 490,385.71 42,900.00 533,285.71 9,462.29 2. รัฐวิสาหกิจ 64,779.80 64,868.36 4,450.10 69,318.46 4,538.66 46,901.93 22,416.53 2.แผนการปรับ 608,900.10 0 608,900.10 0 โครงสร้างหนี้ 608,900.10 107,103.54 0 1. รัฐบาล 501,796.56 501,796.56 0 501,796.56 0 0 0 2. รัฐวิสาหกิจ 107,103.54 107,103.54 0 107,103.54 0 107,103.54 0 3.แผนการบริหาร 80,000.00 80,000.00 80,000.00 0 ความเสี่ยง 2,376.96 5,817.36 รวม (1+2+3) 1,296,427.90 1,291,504.27 4,923.63 166,768.14 28,233.90นอกจากการปรับปรุงวงเงินในแผนที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีการปรับปรุงแผนของรัฐวิสาหกิจที่คณะกรรมการ นโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้มีมติให้แยกกิจกรรมดังกล่าวออกมา โดยไม่ต้องขออนุมัติภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ แต่ยังคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนการกู้เงินอื่น และรายงานให้คณะกรรมการฯ และคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ได้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) ขอปรับเพิ่มวงเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ยุคที่ 3 วงเงิน 15,850,000 ล้านบาท เนื่องจากมีความต้องการใช้เงินเพื่อเร่งดำเนินโครงการดังกล่าวให้เสร็จในช่วงปีงบประมาณ 2554 โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 อนุมัติให้ บมจ. ทีโอที เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานจากการประกวดราคาสากลเป็นการประกวดราคาทั่วไป ทำให้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการจะเป็นเงินกู้จากในประเทศหรือต่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ประมูลโครงการได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มีความเห็นว่าควรเป็นการกู้เงินในรูปเงินกู้ระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการดำเนินโครงการ และกระทรวงการคลังจะไม่ค้ำประกัน เพราะเป็นโครงการที่มุ่งหวังผลตอบแทนเชิงพาณิชย์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554--จบ--