ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 2, 2011 17:03 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย

ในการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการให้จัดสรรงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงแรงงานทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเกี่ยวกับแหล่งเงินงบประมาณและรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วให้ดำเนินการต่อไปได้

สาระสำคัญของเรื่อง

1. สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นมา ได้เกิดเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลลิเบีย และทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลในกรุงทริโปลีออกมาชุมนุมสนับสนุนประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ทำให้มีการเผชิญหน้ากับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

2. ขณะนี้ มีแรงงานไทยทำงานในประเทศลิเบียจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 25,000 คน โดยแรงงานไทยจำนวนประมาณ 20,000 คน ที่ทำงานอยู่ในกรุงทริโปลี เมืองเบงกาซี และบางส่วนกระจายอยู่รอบ ๆ ทางตะวันตกและทางตอนใต้ของประเทศลิเบีย ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอันตรายและต้องเคลื่อนย้ายแรงงานออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยทันที

3. จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมการจัดหางาน ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยจัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ณ กระทรวงการต่างประเทศในการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยอพยพออกจากพื้นที่อันตราย โดยกำหนดแผนการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้

1) เตรียมการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยออกจากพื้นที่อันตรายโดยทางเรือ ซึ่งเช่าเหมาลำจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เดินทางไปรับแรงงานไทยที่กรุงทริโปลี และเดินทางต่อไปยังประเทศกรีซ หรือตุรกี หลังจากนั้นจะเดินทางต่อโดยเครื่องบินโดยสารกลับประเทศไทย

2) กระทรวงแรงงานได้จัดคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อเดินทางไปรับแรงงานไทยที่กรุงทริโปลี เดินทางต่อไปยังประเทศกรีซ หรือประเทศตุรกี

3) จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยชั่วคราว ณ ประเทศอิตาลี กรีซ หรือตุรกี หรืออียิปต์ ก่อนจะส่งแรงงานไทยกลับประเทศไทย และให้ความช่วยเหลือและความสะดวกแก่แรงงานไทย ได้เดินทางกลับถึงภูมิลำเนา

4) ระเบียบกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ.2549 กำหนดให้การสงเคราะห์แก่สมาชิกกองทุนซึ่งไปทำงานในต่างประเทศ และประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสิ้นสุดการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากภัยสงครามหรือปัญหาความไม่สงบในประเทศนั้นๆ ให้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนคนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท

5) ระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงินและการเก็บรักษาเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ.2549 ข้อ 7 กำหนดให้เงินกองทุนประกอบด้วย

(1) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล

(2) เงินที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ นายจ้าง หรือคนหางานส่งเข้ากองทุนฯ ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528

แต่นับตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ รายได้ของกองทุนฯ ได้รับจากนายจ้าง ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ หรือคนหางานที่เป็นสมาชิกกองทุนเท่านั้น โดยยังไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานชี้แจงว่า เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินและเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลืออพยพแรงงานไทยโดยทันที มิฉะนั้นแรงงานไทยอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต และการนำเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศสงเคราะห์ให้แรงงานไทยจำนวนประมาณ 20,000 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย รายละ 15,000 บาท ตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น จะต้องใช้เงินจำนวนทั้งสิ้น 300,000,000 บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก ประกอบกับปัจจุบันมีแรงงานไทยซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จำนวน 472,535 คน (ณ เดือนกันยายน 2553) ซึ่งหากได้รับผลกระทบจากปัญหาอื่น ๆ ที่จะต้องนำเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศจ่ายให้กับคนงานเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ จึงเห็นควรขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสงเคราะห์ให้แก่แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 มีนาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ