ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) ครั้งที่ 3/2553

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 29, 2011 14:37 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) ครั้งที่ 3/2553

และร่างแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ พ.ศ.2555-2574

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2574 เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานว่า ได้ดำเนินการจัดทำร่างแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ พ.ศ.2555-2574 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับภาคอุตสาหกรรม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “มุ่งสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่สมดุลและยั่งยืน” โดยมียุทธศาสตร์ ดังนี้

1. ยกระดับคลัสเตอร์อุตสาหกรรมและขยายเครือข่ายการผลิตสู่ต่างประเทศ เพื่อการเพิ่มผลิตภาพด้านการผลิต ลดข้อจำกัดต่างๆ ในการดำเนินงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันร่วมกัน โดยมีกลยุทธ์ ดังนี้

  • ส่งเสริมการพัฒนากลุ่มคลัสเตอร์ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และความร่วมมือของแต่ละกลุ่มภายในคลัสเตอร์ และสนับสนุนให้เกิดการลงทุนจากต่างชาติที่หลากหลาย และเชื่อมโยงในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่อง และเชื่อมโยงฐานการผลิตและบริการในภูมิภาคอาเซียน
  • ยกระดับคลัสเตอร์ (Upgrade Cluster) สนับสนุนการศึกษาต่อยอด และการฝึกฝนบุคลากร รวมถึงการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาเทคโนโลยี
  • สร้างความยั่งยืนคลัสเตอร์ (Sustainable Cluster) ส่งเสริมให้กลุ่มคลัสเตอร์ไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลก เชื่อมโยงเครือข่ายสร้างความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนทรัพยากรในระดับโลก

2. ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน พัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตลอดจนยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน โดยมีกลยุทธ์การพัฒนาผู้ประกอบการ ดังนี้

  • เพิ่มจำนวนผู้ประกอบการ SMEs (Build SMEs) โดยเส่งเสริมให้ประชาชน หรือเจ้าของกิจการขนาดเล็ก พัฒนาไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะกิจการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
  • สร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ SMEs (Strengthen SMEs) โดยพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และมาตรฐาน การต่อยอดงานวิจัยเชิงพาณิชย์ รวมถึงการส่งเสริมการบริหารจัดการผลิตด้านต้นทุน ความเสี่ยง และจรรยาบรรณ พร้อมเปิดรับกระแสโลกาภิวัตน์ และระบบการค้าเสรี
  • ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการ (Upgrade Entrepreneur) พัฒนา SMEs เพื่อยกระดับการแข่งขันจากตลาดในประเทศไปสู่ต่างประเทศ
  • สร้างความยั่งยืนของผู้ประกอบการไทย (Sustain Entrepreneur)ส่งเสริม SMEs ไทยสู่การเป็นบริษัทชั้นนำของโลก ตลอดจนขบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน

3. ยกระดับสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจ บังคับใช้มาตรฐาน การผลิต การควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน และปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุน โดยมีกลยุทธ์ ดังนี้

  • บังคับใช้มาตรฐานการผลิตในด้านต่างๆ (Safety and Standards) สร้างการรับรู้ของตลาดต่างประเทศถึงศักยภาพ และความน่าเชื่อถือของสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายกฎระเบียบและข้อบังคับที่มีผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม
  • สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Access to Capital) สร้างโอกาส ในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศ
  • ยกระดับศักยภาพบุคลากร (Industry Specific HR Development) จัดหา และพัฒนาศักยภาพแรงงานให้มีความรู้ ทักษะ และมีจำนวนที่เพียงพอต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม
  • ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งหรือพัฒนา ศูนย์ทดสอบ วิจัย และออกแบบ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค และระดับโลก
  • บริหารจัดการอุตสาหกรรม สนับสนุนให้มีหน่วยงานกลางที่ส่งเสริม การบริหารจัดการอุตสาหกรรม และบริหารความสัมพันธ์ระหว่างอุตสาหกรรมและสังคม
  • กำหนดแนวทางจัดสรรทรัพยากร (ที่ดิน น้ำ ไฟฟ้า วัตถุดิบ ฯลฯ) รองรับการพัฒนาและขยายตัวของอุตสาหกรรม โดยให้ชุมชน และประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ

เพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมมีความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ตามแผนแม่บทฯ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สศอ. จึงได้จัดทำร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 — 2574 ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นประธาน ผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องรวม 12 หน่วยงาน เป็นอนุกรรมการ และผู้อำนวยการสำนักนโยบายอุตสาหกรรมมหภาค เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ โดยทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรอง และจัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการ พร้อมงบประมาณภายใต้กรอบแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 มีนาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ