รายงานผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 15, 2011 11:58 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง รายงานผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม

และความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อส่งกลับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์กรณีอุ้มบุญ

คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อส่งกลับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์กรณีอุ้มบุญ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

พม. รายงานว่า

1. ได้ให้การช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพหญิงเวียดนาม จำนวน 15 คน ที่ถูกนายหน้าชาวไต้หวันหลอกลวงมาทำงานในประเทศไทยและบังคับให้ตั้งครรภ์โดยวิธีอุ้มบุญให้กับชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 หญิงดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจ และการดำเนินการด้านคดี ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการส่งกลับจากสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดบริการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีกำหนดนัดหมายส่งกลับหญิงเวียดนามอุ้มบุญและบุตร รวม 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2554 จำนวน 10 คน และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2554 จำนวน 10 คน (หญิง 5 คน และบุตร 5 คน ) ซึ่งในการส่งกลับครั้งที่ 2 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้ตอบรับการเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อการส่งกลับหญิงเวียดนามอุ้มบุญ อย่างเป็นทางการ

2. การเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และคณะ เพื่อส่งกลับหญิงเวียดนามกรณีอุ้มบุญ พร้อมบุตร จำนวน 10 คน (หญิง 5 คน และเด็ก 5 คน) กลับประเทศภูมิลำเนา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 มีภารกิจที่ได้ดำเนินการ ดังนี้

2.1 จัดแถลงข่าวการส่งกลับหญิงเวียดนามกรณีอุ้มบุญกลับมาตุภูมิ ที่ห้องปฏิบัติการ One Stop Service กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ชั้น 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธานแถลงข่าว มีรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในการช่วยเหลือหญิงเวียดนามและบุตรก่อนการส่งกลับ และวัตถุประสงค์ของการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ

2.2 Mr. Maj. Gen. Vu Hung Vuong รองอธิบดีกรมป้องกันและต่อต้านอาชญากรรม กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนอยไบ พร้อมจัดพิธีรับมอบผู้เสียหายและบุตร ทั้ง 10 คน อย่างเป็นทางการ และในช่วงบ่าย H.E. General Le Hong Anh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ พร้อมด้วยผู้แทนฝ่ายการเมืองและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะให้การต้อนรับ หลังจากนั้นเป็นการหารือทวิภาคีแนวทางความร่วมมือในการป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ตามกรอบข้อตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามว่าด้วยความร่วมมือระดับทวิภาคีเพื่อการขจัดการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก และความช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งได้ลงนามร่วมกันเมื่อ 24 มีนาคม 2551 ณ กรุงฮานอย โดยมีสาระสำคัญของการหารือ คือ ผู้แทนทั้ง 2 ฝ่ายได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ และกล่าวถึงความร่วมมือที่ได้ดำเนินการหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว โดยมีการจัดประชุมร่วมกันเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติการตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามผู้ค้ามนุษย์ ซึ่งนำหญิงเวียดนามมาค้าประเวณีที่ประเทศไทย การศึกษาสถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์และแลกเปลี่ยนดูงาน โดยฝ่ายไทยและเวียดนามผลัดกันเป็นเจ้าภาพ รวมถึงข้อเสนอของฝ่ายไทยในการหารือเพื่อจัดทำแนวทางที่เป็นมาตรฐานในการส่งกลับและคืนสู่สังคม ซึ่งเวียดนามได้รับข้อเสนอและมอบหมายให้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องทิศทางความร่วมมือในระยะต่อไปในการที่จะพัฒนาความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อการปราบปรามการค้ามนุษย์ และการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนในระดับสูงเป็นประจำทุกปี ปีละครั้ง รวมถึงการชี้นำแนวทางการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ด้วย

3. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ โรงแรม แกรนด์ พลาซ่า ซึ่งการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบความร่วมมือทวิภาคีเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ และความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 มิถุนายน 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ