คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์ภัยหนาวและสถานการณ์คลื่นซัดชายฝั่ง (วันที่ 27 สิงหาคม — 29 ธันวาคม 2549) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม - 29 ธันวาคม 2549)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 47 จังหวัด 442 อำเภอ 40 กิ่งอำเภอ 16 เขต 3,054 ตำบล 20,625 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,198,814 คน 1,430,085 ครัวเรือน
1.2 ความเสียหาย
1) ผู้เสียชีวิต 340 คน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 72 คน พิจิตร 34 คน อ่างทอง 31 คน นครสวรรค์ 28 คน สิงห์บุรี 26 คน สุพรรณบุรี 18 คน สุโขทัย 15 คน ชัยนาท 14 คน ปราจีนบุรี 12 คน พิษณุโลก 11 คน ชัยภูมิ 11 คน ยโสธร 10 คน จันทบุรี 8 คน เชียงใหม่ 7 คน อุทัยธานี 7 คน ปทุมธานี 7 คน ลพบุรี 6 คน นครปฐม 4 คน แม่ฮ่องสอน 3 คน ลำปาง 3 คน ร้อยเอ็ด 3 คน กรุงเทพมหานคร 2 คน ศรีสะเกษ 2 คน เพชรบูรณ์ 1 คน พังงา 1 คน นครราชสีมา 1 คน อุตรดิตถ์ 1 คน อุดรธานี 1 คน และบุรีรัมย์ 1 คน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 856 หลัง เสียหายบางส่วน 48,755 หลัง ถนน 10,391 สาย สะพาน 671 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1,085 แห่ง ทำนบ/ฝาย/เหมือง 778 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,605,559 ไร่ บ่อปลา/กุ้ง 113,260 บ่อ กระชังปลา 12,433 กระชัง ปศุสัตว์ 142,211 ตัว วัด 743 แห่ง โรงเรียน 682 แห่ง
3) มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเท่าที่สำรวจได้ ประมาณ 7,707,574,527 บาท
1.3 พื้นที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 43 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ใน 7 อำเภอ ได้แก่ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา (อ.บางซ้าย และ อ.ลาดบัวหลวง) สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ อ.สองพี่น้อง และ อ.บางปลาม้า) นครปฐม (อ.บางเลน) และนนทบุรี (อ.ไทรน้อย) โดยมีน้ำท่วมขังเฉพาะในพื้นที่ลุ่มการเกษตรที่เป็นแอ่งกระทะ สำหรับพื้นที่ชุมชนสถานการณ์อุทกภัยได้เข้าสู่สภาวะปกติทุกพื้นที่แล้ว
1.4 การสนับสนุนช่วยเหลือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
1) ได้ระดมกำลัง เครื่องจักรกล รถยนต์บรรทุกน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำความสะอาดล้างถนน เก็บเศษขยะที่ตกค้างในบริเวณชุมชนให้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว
2) จ่ายเงินค่าจัดการศพ 321 ราย รายละ 15,000 บาท กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัว รายละ 40,000 บาท เป็นเงิน 8,315,000 บาท (คงเหลือ 19 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ)
3) จังหวัดที่ประสบภัยได้ใช้จ่ายเงินช่วยเหลือในด้านต่างๆไปแล้ว 2,350.68 ล้านบาท
1.5 การตรวจติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2549 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกพงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพงศโพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในด้านค่าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ค่าเครื่องครัว ค่าเครื่องใช้ประจำวันค่าเครื่องนอน ที่หอประชุมอำเภอเมืองอ่างทองและวัดเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง พร้อมทั้งกล่าวให้กำลังใจ
2. สรุปสถานการณ์ภัยหนาว (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2549)
2.1 พื้นที่ประสบภัยหนาว จำนวน 40 จังหวัด 260 อำเภอ 30 กิ่งอำเภอ 1,580 ตำบล 17,766 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,017,159 คน 779,032 ครัวเรือน แยกเป็น
- ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก และอุทัยธานี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา มุกดาหาร บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ
- ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
- ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี และจันทบุรี
จังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 36 จังหวัด
2.2 การให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยหนาว
2.2.1 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาวเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวปีงบประมาณ 2550 ไว้ดังนี้
1) โอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่ายที่คลังจังหวัด เพื่อจัดซื้อเครื่องกันหนาวจากกลุ่มอาชีพ/กลุ่มแม่บ้านในจังหวัด รวมจำนวน 54 จังหวัด ในวงเงินงบประมาณ 31,155,000 บาท
2) จัดส่งเครื่องกันหนาวไปให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1-10 และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งเก็บสำรองไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบภัยหนาวในวงเงินงบประมาณ 28,845,000 บาท
2.2.2 มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้มอบเงินที่ได้รับบริจาคจากบริษัท คิง เพาเวอร์ แท๊กซ์ฟรี จำกัด ให้แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำไปจัดหาเครื่องกันหนาว 15,420 ผืน แจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 16 อำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบผ้าห่มฯ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2549 แล้ว
2.2.3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานขอรับการสนับสนุนผ้าห่มกันหนาวจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จำนวน 200,000 ผืน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว จำนวน 16 จังหวัด
2.2.4 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เหล่ากาชาดจังหวัด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภากาชาดไทย มูลนิธิ ภาคเอกชน และอื่นๆ ได้แจกจ่ายเครื่องกันหนาวให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาวไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 345,482 ชิ้น (แยกเป็น ผ้าห่มนวม 279,256 ผืน เสื้อกันหนาว 27,150 ตัว ผ้าห่มไหมพรม 18,725 ผืน และอื่นๆ 20,351 ชิ้น)
3. สถานการณ์คลื่นลมแรงและคลื่นซัดชายฝั่งจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
3.1 ระหว่างวันที่ 18-26 ธันวาคม 2549 ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้มีคลื่นลมแรง และเกิดคลื่นซัดชายฝั่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรบริเวณชายฝั่งทะเล และเขื่อนกันดิน ได้รับความเสียหายหลายพื้นที่
3.2 พื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด 18 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 53 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 19,155 คน 5,491 ครัวเรือน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส
3.3 ความเสียหาย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 13 หลัง เสียหายบางส่วน 79 หลัง ร้านค้าร้านอาหาร 22 หลัง เพิงพักอาศัยชั่วคราว 25 หลัง โรงเรียน 2 แห่ง ถนน 29 สาย สะพาน 3 แห่ง เขื่อนกั้นน้ำ 4 แห่ง บ่อปล่า/ปู/กุ้ง 77 บ่อ พื้นที่การเกษตร 50 ไร่ ความเสียหายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
3.4 การดำเนินการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
1) จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นซัดชายฝั่ง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อปพร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง ให้แก่ผู้ประสบภัย จัดทำแนวป้องกันคลื่นชั่วคราว ซ่อมแซมถนนที่เสียหายให้สามารถใช้การได้ชั่วคราวแล้ว
2) ได้แจ้งให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เนื่องจากความกดอากาศสูงระลอกใหม่ ซึ่งจะทำให้มีคลื่นลมแรงในอ่าวไทยและทะเล อันดามันระหว่างวันที่ 28-31 ธันวาคม 2549 เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มกราคม 2550--จบ--
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม - 29 ธันวาคม 2549)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 47 จังหวัด 442 อำเภอ 40 กิ่งอำเภอ 16 เขต 3,054 ตำบล 20,625 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,198,814 คน 1,430,085 ครัวเรือน
1.2 ความเสียหาย
1) ผู้เสียชีวิต 340 คน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 72 คน พิจิตร 34 คน อ่างทอง 31 คน นครสวรรค์ 28 คน สิงห์บุรี 26 คน สุพรรณบุรี 18 คน สุโขทัย 15 คน ชัยนาท 14 คน ปราจีนบุรี 12 คน พิษณุโลก 11 คน ชัยภูมิ 11 คน ยโสธร 10 คน จันทบุรี 8 คน เชียงใหม่ 7 คน อุทัยธานี 7 คน ปทุมธานี 7 คน ลพบุรี 6 คน นครปฐม 4 คน แม่ฮ่องสอน 3 คน ลำปาง 3 คน ร้อยเอ็ด 3 คน กรุงเทพมหานคร 2 คน ศรีสะเกษ 2 คน เพชรบูรณ์ 1 คน พังงา 1 คน นครราชสีมา 1 คน อุตรดิตถ์ 1 คน อุดรธานี 1 คน และบุรีรัมย์ 1 คน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 856 หลัง เสียหายบางส่วน 48,755 หลัง ถนน 10,391 สาย สะพาน 671 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1,085 แห่ง ทำนบ/ฝาย/เหมือง 778 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,605,559 ไร่ บ่อปลา/กุ้ง 113,260 บ่อ กระชังปลา 12,433 กระชัง ปศุสัตว์ 142,211 ตัว วัด 743 แห่ง โรงเรียน 682 แห่ง
3) มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเท่าที่สำรวจได้ ประมาณ 7,707,574,527 บาท
1.3 พื้นที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 43 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ใน 7 อำเภอ ได้แก่ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา (อ.บางซ้าย และ อ.ลาดบัวหลวง) สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ อ.สองพี่น้อง และ อ.บางปลาม้า) นครปฐม (อ.บางเลน) และนนทบุรี (อ.ไทรน้อย) โดยมีน้ำท่วมขังเฉพาะในพื้นที่ลุ่มการเกษตรที่เป็นแอ่งกระทะ สำหรับพื้นที่ชุมชนสถานการณ์อุทกภัยได้เข้าสู่สภาวะปกติทุกพื้นที่แล้ว
1.4 การสนับสนุนช่วยเหลือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
1) ได้ระดมกำลัง เครื่องจักรกล รถยนต์บรรทุกน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำความสะอาดล้างถนน เก็บเศษขยะที่ตกค้างในบริเวณชุมชนให้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว
2) จ่ายเงินค่าจัดการศพ 321 ราย รายละ 15,000 บาท กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัว รายละ 40,000 บาท เป็นเงิน 8,315,000 บาท (คงเหลือ 19 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ)
3) จังหวัดที่ประสบภัยได้ใช้จ่ายเงินช่วยเหลือในด้านต่างๆไปแล้ว 2,350.68 ล้านบาท
1.5 การตรวจติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2549 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกพงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพงศโพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในด้านค่าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ค่าเครื่องครัว ค่าเครื่องใช้ประจำวันค่าเครื่องนอน ที่หอประชุมอำเภอเมืองอ่างทองและวัดเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง พร้อมทั้งกล่าวให้กำลังใจ
2. สรุปสถานการณ์ภัยหนาว (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2549)
2.1 พื้นที่ประสบภัยหนาว จำนวน 40 จังหวัด 260 อำเภอ 30 กิ่งอำเภอ 1,580 ตำบล 17,766 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,017,159 คน 779,032 ครัวเรือน แยกเป็น
- ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก และอุทัยธานี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา มุกดาหาร บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ
- ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
- ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี และจันทบุรี
จังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 36 จังหวัด
2.2 การให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยหนาว
2.2.1 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาวเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวปีงบประมาณ 2550 ไว้ดังนี้
1) โอนเงินงบประมาณไปตั้งจ่ายที่คลังจังหวัด เพื่อจัดซื้อเครื่องกันหนาวจากกลุ่มอาชีพ/กลุ่มแม่บ้านในจังหวัด รวมจำนวน 54 จังหวัด ในวงเงินงบประมาณ 31,155,000 บาท
2) จัดส่งเครื่องกันหนาวไปให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1-10 และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งเก็บสำรองไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบภัยหนาวในวงเงินงบประมาณ 28,845,000 บาท
2.2.2 มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้มอบเงินที่ได้รับบริจาคจากบริษัท คิง เพาเวอร์ แท๊กซ์ฟรี จำกัด ให้แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำไปจัดหาเครื่องกันหนาว 15,420 ผืน แจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 16 อำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบผ้าห่มฯ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2549 แล้ว
2.2.3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานขอรับการสนับสนุนผ้าห่มกันหนาวจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จำนวน 200,000 ผืน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว จำนวน 16 จังหวัด
2.2.4 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เหล่ากาชาดจังหวัด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภากาชาดไทย มูลนิธิ ภาคเอกชน และอื่นๆ ได้แจกจ่ายเครื่องกันหนาวให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาวไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 345,482 ชิ้น (แยกเป็น ผ้าห่มนวม 279,256 ผืน เสื้อกันหนาว 27,150 ตัว ผ้าห่มไหมพรม 18,725 ผืน และอื่นๆ 20,351 ชิ้น)
3. สถานการณ์คลื่นลมแรงและคลื่นซัดชายฝั่งจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
3.1 ระหว่างวันที่ 18-26 ธันวาคม 2549 ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้มีคลื่นลมแรง และเกิดคลื่นซัดชายฝั่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรบริเวณชายฝั่งทะเล และเขื่อนกันดิน ได้รับความเสียหายหลายพื้นที่
3.2 พื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด 18 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 53 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 19,155 คน 5,491 ครัวเรือน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส
3.3 ความเสียหาย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 13 หลัง เสียหายบางส่วน 79 หลัง ร้านค้าร้านอาหาร 22 หลัง เพิงพักอาศัยชั่วคราว 25 หลัง โรงเรียน 2 แห่ง ถนน 29 สาย สะพาน 3 แห่ง เขื่อนกั้นน้ำ 4 แห่ง บ่อปล่า/ปู/กุ้ง 77 บ่อ พื้นที่การเกษตร 50 ไร่ ความเสียหายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
3.4 การดำเนินการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
1) จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นซัดชายฝั่ง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อปพร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง ให้แก่ผู้ประสบภัย จัดทำแนวป้องกันคลื่นชั่วคราว ซ่อมแซมถนนที่เสียหายให้สามารถใช้การได้ชั่วคราวแล้ว
2) ได้แจ้งให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เนื่องจากความกดอากาศสูงระลอกใหม่ ซึ่งจะทำให้มีคลื่นลมแรงในอ่าวไทยและทะเล อันดามันระหว่างวันที่ 28-31 ธันวาคม 2549 เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มกราคม 2550--จบ--