รายงานผลการประชุมใหญ่ประจำปีองค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยที่ 100

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 13, 2011 11:23 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมใหญ่ประจำปีองค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยที่ 100 ระหว่างวันที่ 1 — 17 มิถุนายน 2554 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ ดังนี้

สาระสำคัญของเรื่อง

รง. รายงานว่า

1. องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) ได้จัดการประชุมใหญ่ประจำปี ILO สมัยที่ 100 ระหว่างวันที่ 1 — 17 มิถุนายน 2554 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกมีพันธกิจที่ต้องส่งคณะผู้แทนไตรภาคีจากฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง เข้าร่วมการประชุม จำนวนทั้งหมด 27 คน ประกอบด้วยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นายชีวเวช เวชชาชีวะ) และคณะ รวม 3 คน ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล 15 คน นำโดยปลัดกระทรวงแรงงาน (นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์) ฝ่ายนายจ้าง 4 คน และฝ่ายลูกจ้าง 5 คน และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางเยือนนครเจนีวา ระหว่างวันที่ 12 — 27 มิถุนายน 2554

2. ในการประชุมดังกล่าว มีการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้

2.1 การปราศรัยต่อที่ประชุมเต็มคณะของปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะผู้แทนฝ่ายรัฐบาลและหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวชื่นชมรายงานของผู้อำนวยการใหญ่ ILO เรื่อง “ศักราชใหม่แห่งความยุติธรรมทางสังคม(A New Era of Social justice)” และ ได้นำเสนอการดำเนินงานของรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมนโยบายการมีงานทำที่มีคุณภาพ การสร้างความเท่าเทียม ความปรองดองในสังคม และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ พร้อมกับความก้าวหน้าในการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศมากขึ้น เช่น การขยายสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 และพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 รวมทั้งการอนุมัติให้มีการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือใน 22 สาขาอาชีพ นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังร่วมมือกับ ILO ในการดำเนินการจัดทำแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่า และการต่อต้านการค้ามนุษย์ เพื่อการคุ้มครองแรงงานต่างชาติจากการถูกเอาเปรียบแรงงานด้วย

2.2 ที่ประชุมใหญ่ได้ลงมติและรับรองรายงานที่สำคัญ ๆ ดังนี้

2.2.1 การลงมติรับรองอนุสัญญา (Convention) ฉบับที่ 189 และข้อเสนอแนะ (Recommendation) ฉบับที่ 201 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับคนทำงานบ้าน ที่กำหนดนิยามของ “งานบ้าน” หมายถึง งานที่ทำในหรือเพื่อครัวเรือน และ “คนทำงานบ้าน” คือ คนที่ทำงานดังกล่าว และกำหนดให้ความคุ้มครองแรงงานในเรื่องต่าง ๆ เช่น สิทธิแรงงงานขั้นพื้นฐาน วันหยุดประจำสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่าหนึ่งวัน ความปลอดภัยในการทำงาน และแรงงานอพยพในเรื่องการส่งกลับมาตุภูมิและสภาพการจ้างภายใต้หลักการประติบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment)

2.2.2 การลงมติรับรองแผนงานงบประมาณ พ.ศ. 2555 — 2556 ที่กำหนดงบประมาณรายจ่าย จำนวนทั้งสิ้น 742 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราเงินอุดหนุนประจำปีค่าสมาชิกจะเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ร้อยละ 2.1 สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ประเทศไทยจะต้องจ่ายเงินอุดหนุนค่าสมาชิก จำนวน 756,013 ฟรังก์สวิส (เพิ่มขึ้นประมาณ 15,560 ฟรังก์สวิส) ด้วยสัดส่วนคงเดิมคือ ร้อยละ 0.209 ของงบประมาณทั้งหมด โดยทิศทางการทำงานในช่วงสองปีงบประมาณต่อไป คือ การส่งเสริมการปฏิบัติตามแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่า และการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยความยุติธรรมทางสังคมเพื่อโลกาภิวัตน์ที่เป็นธรรม ค.ศ. 2008 ของประเทศสมาชิก

2.2.3 การรับรองรายงานคณะกรรมการการอภิปรายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ของความมั่นคงทางสังคม ที่นำเสนอแนวทางในการจัดทำมาตรการด้านความมั่นคงทางสังคมสำหรับประชาชนทุกคนเพื่อเป็นเครื่องมือส่งเสริมความเติบโตทางเศรษฐกิจ ลดความยากจน และบรรเทากระทบจากวิกฤติ และเห็นชอบข้อมติที่ให้บรรจุเรื่องการรับรองข้อแนะฉบับใหม่ว่าด้วยฐานการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection Floor) ในการประชุมใหญ่ประจำปี ILO สมัยที่ 101 ปี พ.ศ. 2555

2.2.4 การรับรองรายงานคณะกรรมการการปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงาน ที่ได้มีการอภิปรายกรณีบางประเทศที่ไม่สามารถปฏิบัติตามอนุสัญญาที่ให้สัตยาบันได้ โดยมีประเทศมาเลเซียละเมิดอนุสัญญา ฉบับที่ 19 ว่าด้วยการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน (กรณีเงินทดแทนกรณีประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน) โดยจ่ายเงินทดแทนกรณีบาดเจ็บจากการทำงานแก่คนงานต่างชาติน้อยกว่าที่จ่ายให้คนงานมาเลเซีย และพบว่ามีคนงานต่างชาติจำนวนมากที่ประสบอันตรายจากการทำงานและไม่ได้รับการคุ้มครอง นอกจากนี้ มีกรณีสหภาพพม่าและกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม โดยจับกุมทำร้ายผู้นำแรงงานและขัดขวางการตั้งสหภาพแรงงาน รวมทั้งการติดตามการแก้ไขปัญหาแรงงานบังคับในสหภาพพม่าที่ละเมิดอนุสัญญาฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ โดยมีมติให้รัฐบาลสหภาพพม่าใช้ทุกมาตรการเพื่อขจัดการใช้แรงงานบังคับให้ราบคาบ

2.3 การเลือกตั้งสมาชิกคณะประศาสน์การ (Governing Body) วาระ 3 ปี พ.ศ. 2554 — 2557 โดยประเทศไทยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสำรอง (Deputy Member) ทั้งนี้ คณะประศาสน์การชุดใหม่ได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2554 ซึ่งมีมติเห็นชอบกำหนดการจัดการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระหว่างวันที่ 4-7 ธันวาคม 2554 ณ นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยต้องจัดส่งคณะผู้แทนไตรภาคีเข้าร่วมการประชุมด้วย

2.4 การหารือข้อราชการทวิภาคีระหว่างนาย Nasser Abdulla AL-HUMAIDI รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการสังคมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานประเทศกาตาร์ กับนายชีวเวช เวชชาชีวะ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ โดยได้หารือเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศกาตาร์ ซึ่งได้มีการจัดทำร่างข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานระหว่างประเทศกาตาร์และประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ทันที สำหรับแนวทางการจัดหาตำแหน่งของประเทศกาตาร์ จะจัดหา — จัดส่ง โดยสำนักงานจัดหางานเอกชน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กรกฎาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ