ขออนุมัติจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนยที่ผู้ประกอบการแจ้งคืนโควตาและขอเพิ่มเติม ปี 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 5, 2011 14:56 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรณีการใช้โควตานมผงขาดมันเนยของกลุ่มนิติบุคคลที่ 1 คงเหลือ หรือมีการคืนโควตาจัดสรรให้กับนิติบุคคลกลุ่มที่ 2 โดยการพิจารณาเพื่อยกโควตาข้ามกลุ่มของปี 2554 นี้ ให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อความคล่องตัวและทันเหตุการณ์ในการบริหารจัดการโควตา ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ตามที่คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงเกษตรรายงานว่า

1. ปี 2554 คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เห็นชอบการเปิดตลาดสินค้านมผงขาดมันเนยตามความตกลงการค้าระหว่างประเทศ ประจำปี 2553 รวม 57,574 ตัน (ตามข้อตกลง WTO ปริมาณ 55,000 ตัน และ TAFTA ปริมาณ 2,574 ตัน) โดยให้เก็บภาษีในโควตาเท่าเดิมตามที่เก็บจริงในอัตราร้อยละ 5 และแบ่งการจัดสรรเป็น 2 กลุ่ม โดยผู้ประกอบการกลุ่มนิติบุคคลที่ 1 ได้รับการจัดสรร ร้อยละ 80 เป็นจำนวน 46,059.20 ตัน และผู้ประกอบกลุ่มนิติบุคคลที่ 2 ได้รับการจัดสรรร้อยละ 20 เป็นจำนวน 11,514.80 ตัน สำหรับเงื่อนไขการจัดสรร แบ่งออกเป็น 3 งวด ดังนี้

1.1 งวดที่ 1 จัดสรรให้ปริมาณร้อยละ 90 ภายในเดือนมกราคม 2554 กำหนดการนำเข้าภายใน 31 ธันวาคม 2554

1.2 งวดที่ 2 จัดสรรให้ในปริมาณร้อยละ 10 ภายในเดือนเมษายน 2554 กำหนดการนำเข้า ภายใน 31 ธันวาคม 2554 โดยจัดสรรให้ผู้ประกอบการที่มีการนำเข้าแล้วในงวดที่ 1 แล้ว ร้อยละ 50 ขึ้นไป โดยใช้ข้อมูลการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2554 หากผู้ประกอบการรายใดที่ได้นำเข้าในงวดที่ 1 แล้วครบร้อยละ 100% ก่อนระยะเวลาที่กำหนดสามารถมีหนังสือแจ้งให้คณะอนุกรรมการ พิจารณาจัดสรรโควตาและอัตราภาษีนำเข้านมผงขาดมันเนยพิจารณาก่อน

1.3 งวดที่ 3 กรณีที่ผู้ประกอบการที่ได้รับโควตาในงวดที่ 1 แล้วไม่มีความประสงค์นำเข้าให้ทำเรื่องขอคืนโควตาภายใน 31 สิงหาคม 2554 เพื่อนำโควตาที่เหลือมาจัดสรรให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่ยังมีความต้องการนำเข้าต่อไป

2. ในการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 3/2554 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2554 ที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่ผู้ประกอบการแจ้งขอโควตาเพิ่มเติม ปี 2554 จำนวน 40 ราย ปริมาณ 8,882.12 ตัน เมื่อได้รับการจัดสรรในส่วนที่มีการคืนโควตา 2,141.46 ตัน แล้ว ยังคงเหลือความต้องการเพิ่มเติมอีก ปริมาณ 6,740.66 ตัน แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลรายงานปริมาณการขอหนังสือรับรองการนำเข้านมผงขาดมันเนยในโควตาปี 2554 ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2554 ของกรมการค้าต่างประเทศแล้ว พบว่าโควตาที่เปิดตลาด ปริมาณ 57,574 ตัน มีการขอหนังสือรับรองฯ แล้ว ปริมาณ 33,078.01 ตัน ยังมีโควตาคงเหลืออยู่อีก 24,495.99 ตัน จึงวิเคราะห์แล้ว เห็นว่ามีแนวโน้มที่จะมีการแจ้งขอคืนโควตาจากผู้ประกอบการอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 เช่นเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ที่ประชุมจึงเห็นสมควรพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการที่ยังมีความต้องการเพิ่มเติมอีก ดังนี้

2.1 ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกรณีการใช้โควตานมผงขาดมันเนยของกลุ่มนิติบุคคลที่ 1 คงเหลือ หรือมีการคืนโควตา โดยการพิจารณาเพื่อยกโควตาในส่วนของกลุ่มนิติบุคคลที่ 1 ไปให้กับกลุ่มนิติบุคคลที่ 2 โดยให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อความคล่องตัวและทันเหตุการณ์ ในการบริหารจัดการโควตา ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554

2.2 ให้เร่งรัดการพิจารณาการขออนุมัติเปิดตลาดและจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย ปี 2555 ให้เร็วขึ้น โดยคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมควรพิจารณาอนุมัติให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนพฤศจิกายน 2554 เพื่อที่กระทรวงพาณิชย์จะได้ประกาศผลการจัดสรรที่จะออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีในโควตา ปี 2555 ได้ ภายในเดือนมกราคม 2555 และผู้ประกอบการจะได้นำเข้านมผงขาดมันเนยได้ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นไป

3. ในการประชุมคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2554 มีมติเห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกรณีการใช้โควตานมผงขาดมันเนยของกลุ่มนิติบุคคลที่ 1 คงเหลือ หรือมีการคืนโควตา โดยการพิจารณาเพื่อยกโควตาในส่วนของกลุ่มนิติบุคคลที่ 1 ไปให้กับกลุ่มนิติบุคคลที่ 2 ขอให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อความคล่องตัวและทันเหตุการณ์ในการบริหารจัดการโควตาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 ตุลาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ