คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นเอกสารผลการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง- ญี่ปุ่นดังกล่าว
2. มอบหมายให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนร่วมรับรองร่างเอกสารดังกล่าวข้างต้น
3. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ขอให้ กต. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
1. ความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น (Mekong-Japan Cooperation) ริเริ่มโดยญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในอาเซียน โดยการพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ผ่านการให้ความช่วยเหลือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งจะนำมาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองสู่ภูมิภาคและการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
2. ความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย เวียดนาม และญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเป็นสำคัญ
3. การประชุมที่สำคัญที่ผ่านมา ได้แก่ การประชุมผู้นำครั้งที่ 1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 ณ กรุงโตเกียว ซึ่งมีการรับรองปฏิญญาโตเกียวและแผนปฏิบัติการ 63 รายการ และการประชุมผู้นำครั้งที่ 2 ณ กรุงฮานอย เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนปฏิบัติการข้อริเริ่มความร่วมมือเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น (MJ-CI) และแผนปฏิบัติการข้อริเริ่ม “หนึ่งทศวรรษสู่แม่โขงเขียวขจี” (Green Mekong)
4. ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 (The Third Mekong-Japan Summit) ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2554 ณ บาหลี อินโดนีเซีย โดยมีประเด็นสำคัญที่จะหารือ ได้แก่ การพัฒนาทางเศรษฐกิจในภาพรวมเพื่อให้มีการพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่สมดุลและยั่งยืน และประเด็นที่เป็นข้อห่วงกังวลในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมทั้งจะมีการพิจารณารับรองร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 (Joint Statement of the Third Mekong-Japan Summit) ซึ่งเป็นเอกสารผลการประชุมในครั้งนี้
ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น เพื่อการพัฒนาในภาพรวมให้ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีสมดุลและยั่งยืน และส่วนที่ 2 ประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. ส่วนที่ 1 (ความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น เพื่อการพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในภาพรวมมีสมดุลและยั่งยืน) ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ จะยืนยันความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นที่จะร่วมมือกับประเทศในลุ่มน้ำโขง โดยการสนับสนุนการพัฒนาการเชื่อมโยงในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านกายภาพและการอำนวยความสะดวกกฎระเบียบในการขนส่งข้ามพรมแดน ความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน การสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เช่น การจัดการภัยพิบัติ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การให้ความสำคัญกับประเด็นความมั่นคงของมนุษย์ ความมั่นคงและความปลอดภัยของอาหาร การขยายความร่วมมือและแลกเปลี่ยน และกล่าวชื่นชมพัฒนาการทางประชาธิปไตยของเมียนมาร์
2. ส่วนที่ 2 (ข้อห่วงกังวลระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ) ผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงและญี่ปุ่นแสดงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในประเด็นภูมิภาคและระดับโลกที่เป็นกังวลร่วมกัน และสร้างเสริมความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่นที่มีอยู่แล้ว ให้ครอบคลุมแข็งแกร่งขึ้น เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพ ความสงบสุข และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
ร่างแถลงการณ์ดังกล่าว เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น ที่มีสาระสำคัญเป็นการพัฒนาในด้านต่างๆ ของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ครอบคลุมอย่างมีสมดุลและยั่งยืน การเสริมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดทั้งในประเด็นที่มีข้อกังวลร่วมกันทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนการกำหนดแนวทางของความร่วมมือภายใต้กรอบดังกล่าวสำหรับปี ค.ศ. 2012
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2554--จบ--