เรื่อง ขออนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้และรายละเอียดเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ตามพระราชกำหนด
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงิน ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า
1. คณะกรรมการนโยบายกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้มีมติเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2554 อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2555 ปรับปรุงครั้งที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยแผนการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 วงเงิน 149,109.80 ล้านบาท และอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ
2. กค. ได้ดำเนินการกู้เงินภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 จำนวนรวมทั้งสิ้น 348,940.09 ล้านบาท โดยมีผลการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 จำนวน 295,763.23 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 84.76 ของวงเงินกู้
3. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 — 2554 กค. ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ฯ เป็นเงินกู้ระยะยาวแล้ว จำนวน 199,830.29 ล้านบาท โดยยังคงมีสัญญาเงินกู้แบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งจะครบกำหนดในปี 2557 จำนวน 149,109.80 ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้
หนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้เป็นเงินกู้ระยะยาวแล้ว วงเงิน (ล้านบาท) ปีที่ครบกำหนดชำระหนี้
พันธบัตรออมทรัพย์ 82,230.29 2559 ตั๋วสัญญาใช้เงิน 34,600.00 2566/2572 พันธบัตรรัฐบาล 43,000.00 2568 พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ 40,000.00 2564 รวม 199,830.29 หนี้ระยะสั้นที่ยังไม่ปรับโครงสร้างหนี้ วงเงิน (ล้านบาท) ปีที่ครบกำหนดชำระหนี้ สัญญาเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิงกับ 30,169.71 2557อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์
(Fixed Deposit Rate)
สัญญาเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิงกับ 118,940.09 2557อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะสั้นระหว่างธนาคาร
ตลาดกรุงเทพ (BIBOR)
รวม 149,109.804. เนื่องจาก กค. ยังคงมีสัญญาเงินกู้แบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวระยะสั้นที่ยังไม่ปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 149,109.80 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระในปี 2557 อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีต้นทุนและความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงเห็นควรปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ดังกล่าวเป็นหนี้ระยะยาว เพื่อให้มีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมและกระจายภาระหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถปรับโครงสร้างหนี้ให้มีอายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 6.7 ปี เป็น 10.9 ปี โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขของตราสารหนี้รัฐบาลดังนี้
ประเภท ตราสารหนี้รัฐบาล ผู้กู้ กค. ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย วัตถุประสงค์ เพื่อนำมาใช้สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552
วงเงิน 149,109.80 ล้านบาท อายุ ไม่เกิน 25 ปี อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยตามที่กระทรวงการคลังกำหนด แหล่งเงินกู้ ตลาดทุนในประเทศการชำระคืนต้นเงินกู้ ชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวนเมื่อครบกำหนดหรือตามเงื่อนไขของตราสารหนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2554--จบ--