คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการให้ผู้มีอำนาจอนุมัติของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งพิจารณาแก้ไขสัญญาว่าจ้างเอกชนดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในลักษณะสัญญาจ้างเหมาบริการ หากเอกชนคู่สัญญาได้รับผลกระทบจากการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จนไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ ตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า
1. นโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในปีแรกในข้อ 1.8 ในเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค โดยดำเนินการให้แรงงานมีรายได้วันละไม่น้อยกว่า 300 บาท
2. ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 6) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 ได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 300 บาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวมกำหนดเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่อื่น ๆ ด้วย และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555
3. เนื่องจากลักษณะการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีความจำเป็นต้องว่าจ้างเอกชนดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในลักษณะของการจ้างเหมาบริการ ซึ่งการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างดังกล่าวข้างต้น (ข้อ 2) อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินงานของเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนบรรลุตามเป้าหมาย จึงเห็นสมควรกำหนดหลักการเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้รัฐวิสาหกิจว่าในกรณีที่คู่สัญญาเอกชนที่ดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในลักษณะของการจ้างเหมาบริการได้รับผลกระทบจากการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจนไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้มีอำนาจอนุมัติของรัฐวิสาหกิจที่จะพิจารณาแก้ไขสัญญาว่าจ้างเอกชนดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวให้เกิดความเป็นธรรมต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มิถุนายน 2555--จบ--