การป้องกัน ควบคุมโรค มือ เท้า ปาก ชนิดรุนแรงในเด็ก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 18, 2012 11:08 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบการป้องกัน ควบคุมโรค มือ เท้า ปาก ชนิดรุนแรงในเด็ก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ต่อไปด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า

สืบเนื่องจาก การระบาดของโรค มือ เท้า ปาก ในเด็ก จากเชื้อไวรัสเอนเทอโร 71 (Enterovirus 71) ที่มีอาการรุนแรง ในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศกัมพูชา โดยมีอาการไข้ อาการระบบทางเดินหายใจ และสมองอักเสบ ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 พบผู้ป่วยเด็ก ทั้งสิ้น 61 ราย ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 54 ราย โดยอายุของผู้ป่วยอยู่ในช่วง 3 เดือน ถึง 11 ปี และส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็ก อายุน้อยกว่า 3 ปี ซึ่งทางการกัมพูชาได้มีมาตรการเฝ้าระวังโรค ป้องกันโดยการเน้นสุขอนามัย และการดูแลเด็กเล็ก ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ยังมิได้มีคำแนะนำให้จำกัดการเดินทางแต่อย่างใด เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ในประเทศไทย จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 9 กรกฎาคม 2555 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก ทั่วประเทศ รวม 12,581 ราย อัตราป่วย 19.8 ต่อประชากรแสนคน ยังไม่พบผู้เสียชีวิต การระบาดมักจะเกิดช่วงฤดูฝนและช่วงเปิดเทอม ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายในวงกว้าง ในขณะนี้ พบผู้ป่วยยืนยัน ที่มีอาการรุนแรง จำนวน 1 ราย ในจังหวัดน่านแล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยอาการรุนแรงที่กำลังรอผลการตรวจยืนยันโรคมือ เท้า ปาก อีกหลายราย

โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโร ซึ่งมีหลายชนิด พบได้บ่อยทั่วโลก ในกลุ่มเด็กทารก และเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี การระบาดมักเกิดขึ้นในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนอนุบาล โดยทั่วไปมีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ ๆ เกิดตุ่มพอง และแผลเล็กๆ ในปาก คอ มีตุ่มที่ มือ เท้า และบริเวณก้น แต่เชื้อไวรัสบางสายพันธุ์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น อาการทางระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท สมองอักเสบหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โรคนี้ติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย อุจจาระ หรือตุ่มพองและแผลของผู้ป่วย รวมทั้งการติดต่อทางน้ำหรืออาหาร เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของโรคในวงกว้าง และการเสียชีวิตของผู้ป่วย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ดำเนินมาตรการ ดังนี้

1. เร่งรัดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค

2. กำชับแพทย์ในสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่ให้ระมัดระวัง

3. ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยที่อาจไม่ได้มาด้วยอาการตุ่มที่ปาก หรือฝ่ามือ ฝ่าเท้า

4. ทำการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องโรคมือ เท้า ปาก แก่ประชาชน เน้นการรักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ หากมีผู้ป่วยสงสัยมือ เท้า ปากที่มีไข้สูง ซึม ชัก หายใจ หอบเหนื่อย ให้รีบพาไปพบแพทย์

5. ให้จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากกว่า 10 รายต่อวัน เปิดศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด (War room) โดยเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

6. ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการร่วมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ในศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานศึกษา และชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นสุขอนามัย และการทำความสะอาดในโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งคำแนะนำผู้เดินทางไป-กลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้ ซึ่งยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ควรปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี ล้างมือบ่อย ๆ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 กรกฎาคม 2555--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ