สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 - 2553)
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 - 2553) ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เสนอแล้ว มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าว ดังนี้
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมททางการเมือง (พ.ศ. 2548 - 2553)
2. เห็นชอบการประมาณการผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณปลายปี พ.ศ. 2548 จนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 จำนวน 500 ราย และประมาณการงบประมาณในวงเงิน 300 ล้านบาท และอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป
3. มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
ปคอป. รายงานว่า ปคอป. ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 10 ม.ค. 55 โดยการประชุม ปคอป. ครั้งที่ 6/2555 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 เห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1. หลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 - 2553) โดยกำหนดขอบเขตการให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงกรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีซึ่งยังมิได้ระบุไว้แจ้งชัดตามนัยมติคณะรัฐมนตรี (10 ม.ค. 55) เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปด้วยความเหมาะสม เป็นธรรม ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีอาญาโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ที่มูลคดีเกิดหรือเกี่ยวเนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548-2553) ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548-2553) และถูกจำกัดเสรีภาพตามที่ศาลได้มีหมายควบคุมหรือหมายขัง หรือตามที่กฎหมายกำหนด โดยวิธีการควบคุมหรือคุมขังในเรือนจำ หรือสถานที่ที่ใช้ควบคุมหรือคุมขังของทางราชการหรือสถานที่ที่ทางราชการหรือศาลกำหนดให้ใช้เป็นสถานที่ควบคุมหรือคุมขัง ซึ่งพนักงานอัยการทีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุด ให้ยกฟ้อง หรือให้จำคุกแต่ถูกควบคุมหรือคุมขังเกินกว่าระยะเวลาให้จำคุก เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา
2. การประมาณการงบประมาณเบื้องต้น โดยอาศัยเทียบเคียงข้อมูลจากผู้ได้รับผลกระทบที่มีผลการนำเสนอข้อมูล จำนวน 358 ราย ประกอบกับรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 290 คน และคดีวางเพลิง มีผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 144 คน รวมผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 434 คน มาเป็นฐานข้อมูลในการประมาณการ แต่เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลในเหตุการณ์ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 เท่านั้น จึงเห็นว่าควรประมาณการให้มีจำนวนครอบคลุมเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 — 2553) โดยประมาณการผู้ได้รับผลกระทบ มีจำนวน 500 ราย และประมาณการงบประมาณในวงเงิน 300,000,000บาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่เกิดขึ้นตามความจำเป็นและเหมาะสม จำนวน 2,239,300 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยา จำนวน 297,760,700 บาท ได้แก่
กรณีมีระยะเวลา อัตราเงินช่วยเหลือเยียวยา (บาท) จำนวน ประมาณการ ควบคุมหรือคุมขัง เยียวยา เยียวยา รวมประมาณ (ราย) ในวงเงิน (บาท) ควบคุม/คุมขัง ด้านจิตใจ ไม่เกิน 90 วัน >=37,030 - >=37,030 250 9,257,500 เกินกว่า 90 วัน >=74,060 750,000 >=824,060 150 123,609,000 แต่ไม่เกิน 180 วัน เกินกว่า 180 วัน =74,471 1,500,000 =1,574,471 100 164,894,200รวมทั้งสิ้น 500 297,760,700ทั้งนี้ ให้ถือได้ว่ามีการประสานงานระหว่าง สปน. กค. และ สงป. ในการจัดหาวงเงินงบประมาณตามกรอบอัตราเงินช่วยเหลือเยียวยาความเสียหาย เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ให้ใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ต่อไป
3. มอบหมายกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 ธันวาคม 2555--จบ--