การติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนมีนาคม 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 22, 2013 11:46 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนมีนาคม 2556 ตามที่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) รายงานว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบได้รายงานผลการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนมีนาคม 2556 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย

1.1 คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินงานทั้งหมด 5 คณะ

1.2 กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้จ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุม ทางการเมือง (เมื่อปี 2548-2553) จำนวน 10 ราย เป็นเงิน 8,151,024 บาท

1.3 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายจำนวน 2,267 ราย เป็นเงิน 1,775 ล้านบาท

2. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน 51,158 หมู่บ้าน/ชุมชน (ร้อยละ 60.67) เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จำนวน 13,029 หมู่บ้าน/ชุมชน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.45 ส่วนการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดโดยการนำเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาทั้ง 3 ระบบ จำนวน 138,368 ราย (ร้อยละ 46.12) เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จำนวน 33,731 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.24

3. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง โดยสำนักงาน ก.พ.ร. ได้ปลูกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักรู้โดยมอบรางวัลเชิดชูเกียรติข้าราชการต้นแบบที่มีความประพฤติดี ทุ่มเทในการทำงาน ไม่ทุจริต ซึ่งโครงการได้เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนโครงการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ (1 กรม 1 ป้องกันโกง) มีหน่วยงานที่ส่งข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านการอนุมัติทั้งสิ้น 143 กรม และจังหวัด จำนวน 76 จังหวัด

4. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทาน โดยสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ได้ดำเนินโครงการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตของประเทศ พ.ศ. 2555 ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 8 ลุ่มน้ำ และพื้นที่ลุ่มน้ำอื่น ๆ 17 ลุ่มน้ำ การบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทาน เพื่อส่งน้ำและระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูก 24.52 ล้านไร่ การป้องกันและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจลดลง 60,000 ไร่ รวมทั้งการก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดใหญ่ 10 โครงการ (ผลการดำเนินการเฉลี่ยประมาณร้อยละ 12)

5. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดทำโครงการและกิจกรรมตามนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2555 — 2557 ภายใต้วัตถุประสงค์ 9 ข้อ ได้แก่ การเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกคนในพื้นที่ดำรงชีวิตได้ปกติสุข การขจัดและป้องกันไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่หล่อเลี้ยงและเอื้อต่อการใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่าย ฯลฯ และได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาและบูรณาการแผนงาน/โครงการ และงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการบูรณาการในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโครงการที่ซ้ำซ้อนกัน

6. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้รายงานการแลกเปลี่นการเยือนระดับสูงและการประชุมทวิภาคีระดับสูงกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในอาเซียนของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ

7. เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) ได้มีนโยบายการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2558 โดยร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ทก.) เพื่อสำรวจพื้นที่ติดตั้งสัญญาณ WiFi ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ชลบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ เลย นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี

8. สนับสนุนการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อการสร้างเอกลักษณ์และการผลิตสินค้าในท้องถิ่น (OTOP และ SMEs)

8.1 กระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมหลายประการได้แก่ การจัดทำฐานข้อมูลผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP โดยในปี 2555 มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 35,984 กลุ่ม และมีผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม จำนวน 71,591 ผลิตภัณฑ์

8.2 กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ได้สนับสนุนภารกิจของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในงานศิลปหัตถกรรมอันทรงคุณค่า การยกระดับผู้ประกอบการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการ (OTOP Plus) เป็นต้น

9. เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดย มท. ได้จัดการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีหมู่บ้านต้นแบบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น 8,780 หมู่บ้าน และอาสาสมัครเพิ่มขึ้น 175,600 คน และคาดว่าจะมีโครงการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย ระหว่างเดือนพฤษภาคม — มิถุนายน 2556 รวม 108 เวที กลุ่มเป้าหมาย 75,700 คน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 พฤษภาคม 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ