ขออนุมัติร่างถ้อยแถลงร่วมของการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 26, 2013 14:03 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอดังนี้

1. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

2. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างถ้อยแถลงร่วมในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการเผยแพร่ ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า นายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีกำหนดการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2556 ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายไทยและเวียดนามได้เห็นชอบให้มีการประกาศถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) เพื่อเป็นผลลัพธ์ของการเยือนดังกล่าว ดังนี้

1. การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในครั้งนี้ เป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายเหวียน ฝู จ่อง หลังจากได้รับการเลือกตั้งในปี 2554 และเป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในรอบ 20 ปี หลังจากที่นายโด๋ เหมื่อย ได้เยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2536 การเยือนครั้งนี้จึงมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์

2. การเยือนครั้งนี้เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดของการเยือน คือการร่วมกันประกาศการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามขึ้นเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) อย่างเป็นทางการ โดยมีถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) เป็นเอกสารแสดงการประกาศการยกระดับความสัมพันธ์และแนวทางส่งเสริมความร่วมมือในทุกระดับและมิติระหว่างไทย-เวียดนาม

3. เอกสารถ้อยแถลงร่วมมีสาระสำคัญเพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมของไทยและเวียดนามในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในทุก ๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ และเพื่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศโดยรวม ซึ่งเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จะเปิดโอกาสให้มีการร่วมกันแสวงหาและเพิ่มความร่วมมือในทุก ๆ ด้าน เพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศ เพื่อการพัฒนาของภูมิภาค และส่งเสริมการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ ดังนี้

3.1 ด้านการเมืองและการต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนและการหารือในระดับสูงระหว่างกันเพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความเข้าใจที่ดีระหว่างกัน

3.2 ด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง เพื่อกระชับความร่วมมือในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงในรูปแบบต่าง ๆ

3.3 ด้านเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และส่งเสริมความเชื่อมโยงคมนาคมระหว่างกัน รวมทั้งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายคมนาคมที่มีอยู่ในภูมิภาคให้เกิดประโยชน์สูงสุด

3.4 ด้านสังคม วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างภาคประชาชนและอื่น ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านสังคม วัฒนธรรมระหว่างประชาชนและระหว่างท้องถิ่น โดยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ภาษา และทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม

3.5 ด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็งและเป็นเอกภาพ เพื่อดำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค โดยมุ่งการลดช่องว่างในการพัฒนาระหว่างประเทศในภูมิภาค รวมทั้งการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีภูมิภาคและเวทีระหว่างประเทศ

4. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและเวียดนามในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค ภูมิภาค และอาเซียน รวมทั้งการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้โดยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ

5. ส่งเสริมความร่วมมือกันในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 มิถุนายน 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ