1. อนุมัติให้ขยายเวลาของแผนพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (2005) ในช่วงปี พ.ศ. 2551 — 2555 ออกไปจนถึงปี พ.ศ. 2559
2. เห็นชอบให้ สธ. ประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อการจัดทำแผนกิจกรรมการพัฒนาสมรรถนะหลักตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (2005) ประจำปี พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม
สาระสำคัญของเรื่อง
สธ. รายงานว่า
1. กฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (2005) หรือ International Health Regulations (2005) หรือ IHR (2005) มีสถานะเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ (Treaty) ที่ประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกทั่วโลกให้การยอมรับในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก (World Health Assembly) ครั้งที่ 58 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2548 และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2550 เป็นต้นไป โดยมีผลผูกพันประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกรวมทั้งประเทศไทยในการพัฒนาสมรรถนะหลัก เสริมสร้างความเข้มแข็ง และรักษาระดับสมรรถนะหลักในการเฝ้าระวัง และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) ที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะอันตรายต่าง ๆ (Hazards) ทั้งจากโรคติดต่อ โดยเฉพาะโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน อาหาร กัมมันตรังสีและนิวเคลียร์ และสารเคมี ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน คุ้มครอง ควบคุม และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยหลีกเลี่ยงการรบกวนการจราจรและการค้าระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น
2. องค์การอนามัยโลกได้กำหนดกลไกการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการตามกฎอนามัยฯ โดยมอบให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศประเมินสมรรถนะหลักของตนเองเป็นประจำทุกปีตามแบบสอบถามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดขึ้นมา รวมทั้งการอภิปรายและปรึกษาหารือในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกประจำปี และในที่ประชุมประจำปีระหว่างจุดประสานงานกฎอนามัยระดับชาติของ 11 ประเทศ ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกขององค์การอนามัยโลก ตามข้อกำหนดของกฎอนามัยฯ ซึ่งทุกประเทศจะต้องพัฒนาสมรรถนะหลักของตนเองให้ครบถ้วน ภายใน 5 ปี นับจากวันที่กฎอนามัยฯ มีผลบังคับใช้ แต่เมื่อครบกำหนด ในวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ทั้ง 11 ประเทศในภูมิภาคนี้ รวมทั้งประเทศไทยได้ขอขยายเวลาออกไปอีก 2 ปี เพื่อให้สามารถพัฒนาสมรรถนะหลักของตนให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น ตามมาตรา 5 ของกฎอนามัยฯ สำหรับประเทศไทย แม้ว่าจะสามารถพัฒนาสมรรถนะหลักจนบรรลุวัตถุประสงค์ได้ในระดับหนึ่งดังกล่าว แต่ยังคงมีภารกิจในการพัฒนาต่อไป ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดของกฎอนามัยฯ ภายใน 2 ปี ตามเวลาที่ขอขยายเท่านั้น หากแต่ต้องพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ในปี พ.ศ. 2558 อีกด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 กรกฎาคม 2556--จบ--