การประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 25, 2013 06:50 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16

(CITES CoP16) และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 63 และครั้งที่ 64

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้

1. รับทราบสรุปผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES CoP16) และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 63 และครั้งที่ 64

2. มอบหมายให้ ทส. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ดำเนินการตามผลการประชุม CITES CoP16 และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ร่วมกับ ทส. ดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 68 กำหนดให้วันที่ 3 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Day)

3. เห็นชอบต่อร่างแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2556-2560 โดยมอบหมายให้ ทส. เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานเพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว และให้ปรับแก้ร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวข้างต้นในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญได้ พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

ทส. รายงานว่า

1. ทส. ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 (CITES CoP16) และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 63 และครั้งที่ 64 ในระหว่างวันที่ 3 — 14 มีนาคม 2556 และได้ดำเนินการจัดทำรายงานการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ครั้งที่ 16 (CITES CoP16) และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 63 และครั้งที่ 64 โดยผ่านการพิจารณาให้ข้อคิดเห็นจากที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามอนุสัญญา CITES เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556

2. ทส. ได้ดำเนินการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2556-2560 ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ครั้งที่ 64 โดยคณะทำงานจัดทำร่างแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2556-2560 ที่ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวข้างต้นเพื่อแก้ไขปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมายตามพันธกรณีแห่งอนุสัญญา CITES และได้มีการประชุมหารือกันจำนวน 2 ครั้ง เพื่อพิจารณาร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับแผนปฏิบัติการดังกล่าว จำนวน 3 ครั้ง ใน 3 พื้นที่ที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้างาช้าง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดอุทัยธานีและนครสวรรค์ และครั้งที่ 3 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ประชุมดังกล่าวส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยุติการค้างาช้างภายในประเทศ แต่ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการควบคุมการค้างาช้างจากภาครัฐ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ส่งแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลช้างเลี้ยงและการค้างาช้างไปยังกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นเจ้าของช้างเลี้ยงจำนวน 1,524 ฉบับ โดยมีผู้ตอบกลับจำนวน 387 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 25.40 ของจำนวนแบบสอบถามทั้งหมด โดยได้สอบถามว่าเห็นด้วยหรือไม่หากรัฐบาลให้ทำการซื้อขายงาช้างที่ตัดหรือได้จากช้างของท่านได้โดยมีการควบคุม (เห็นด้วยร้อยละ 52.30 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 32.70 และไม่มีความเห็นร้อยละ 15.00) และเห็นด้วยหรือไม่หากรัฐบาลห้ามทำการซื้อขายงาช้างที่ตัดหรือได้จากช้างของท่าน (ไม่เห็นด้วยร้อยละ 66.40 เห็นด้วยร้อยละ 19.60 และไม่มีความเห็นร้อยละ 14.00) ซึ่งความคิดเห็นของเจ้าของช้างสอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับแผนปฏิบัติการดังกล่าวข้างต้น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 กันยายน 2556--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ