การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. อนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือแห่งสาธารณรัฐโตโก (Memorandum of Understanding on Cooperation between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Foreign Affairs and Cooperation of the Republic of Togo)

2. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว

3. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า

1. นายโรแบร์ ดุสเซย์ (Mr.Robert Dussey) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือสาธารณรัฐโตโก มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 11 – 14 กุมภาพันธ์ 2558 ประกอบกับฝ่ายไทยและโตโกได้เห็นชอบให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือแห่งสาธารณรัฐโตโก เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันต่อไปในอนาคต ซึ่งฝ่ายโตโกได้เห็นชอบกับร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวแล้ว

2. ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกรอบการปรึกษาหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือด้านการเมือง การค้า เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม อันจะนำมาซึ่งการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับโตโกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยบันทึกความเข้าใจฯ จัดทำเป็น 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาไทย ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับในวันที่ลงนาม และจะยังคงมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลาห้าปี ต่ออายุโดยอัตโนมัติครั้งละห้าปี เว้นแต่คู่ภาคีฝ่ายหนึ่งจะแจ้งความประสงค์ต่ออีกฝ่ายหนึ่งเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเจตนาที่จะบอกเลิกบันทึกความเข้าใจฯ เป็นเวลาหกเดือนก่อนวันสิ้นสุดบันทึกความเข้าใจ

3. กต. พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว เป็นความตกลงที่จัดทำขึ้นระหว่างหน่วยงานระดับกระทรวง โดยมีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อความร่วมมือระหว่างหน่วยงานซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กต. ที่จะสามารถดำเนินตามข้อกำหนดในความตกลงนั้นได้เองโดยไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่และการทำงานของหน่วยงานอื่น ๆ และไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีในระดับรัฐบาลภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ปี 2557

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558--