ทำเนียบรัฐบาล--29 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหภาพพม่าว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงที่มิใช่สาระสำคัญก่อนการลงนาม ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในความตกลงดังกล่าวร่วมกับฝ่ายพม่า เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ มีดังนี้
1. แต่ละฝ่ายจะออกบัตรผ่านแดน และบัตรผ่านแดนชั่วคราวให้แก่ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในบริเวณชายแดนและนอกบริเวณชายแดนตามลำดับ เพื่อการเข้าออกบริเวณพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตของอีกฝ่าย
2. จุดที่ให้เข้าออกในพื้นที่กำหนดไว้ 3 จุด (อาจตกลงเพิ่มเติมได้ภายหลัง) และมีพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าได้ ดังนี้
- แม่สาย - ท่าขี้เหล็ก (เข้าได้ถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายของไทย และเขตตัวเมืองท่าขี้เหล็กของพม่า)
- แม่สอด - เมียวดี (เข้าได้ถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทย และเมืองเมียวดีของพม่า)
- ระนอง - เกาะสอง (เข้าได้ถึงอำเภอเมือง จังหวัดระนองของไทย และเกาะสองของพม่า ซึ่งรวมถึง เกาะสน (Tha - Hte - Kyun) ด้วย)
3. บัตรผ่านแดนจะมีอายุการใช้งานสองปี โดยได้รับอนุญาตให้พำนักได้คราวละไม่เกิน 2 สัปดาห์ ส่วนบัตรผ่านแดนชั่วคราวใช้สำหรับการเข้า - ออก เพียงครั้งเดียวและพำนักได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์
4. สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทาง รวมทั้งชาวต่างประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ในหนังสือเดินทางแล้ว สามารถเข้า - ออกตามจุดผ่านแดนทั้งสามและพำนักได้ไม่เกิน 4 สัปดาห์
5. การแก้ไขความตกลงฯ อาจทำได้โดยการให้ความเห็นชอบร่วมกันผ่านช่องทางการทูต และการยกเลิกความตกลงต้องแจ้งให้ภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน
6. ความตกลงฯ จะจัดทำเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาพม่ากรณีที่มีข้อความไม่สอดคล้องกันจักถือตัวบทภาษาอังกฤษเป็นบรรทัดฐาน
ทั้งนี้ การจัดทำความตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อไทย ดังนี้
1. ป้องกันมิให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดปิดจุดผ่านแดนโดยพลการ อันอาจกระทบกระเทือนต่อการติดต่อระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศและกิจกรรมทางธุรกิจที่ดำเนินการผ่านจุดผ่านแดนนั้น ๆ
2. ส่งเสริมและอำนวยประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติที่ต้องการเกินทางออกจากไทยไปพม่า หรือจากพม่ามาไทย
3.สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของไทยในอันที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและเศรษฐี a ของภูมิภาค
อนึ่ง ร่างความตกลงฯ ดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะทำงานร่วมไทย - พม่า ว่าด้วยจุดผ่านแดน เพื่อพิจารณาแนวทางปฏิบัติสำหรับการเปิดจุดผ่านแดนถาวรของทั้งสองประเทศ ครั้งที่ 2 ที่กรุงย่างกุ้ง ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2539
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 29 ตุลาคม 2539--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหภาพพม่าว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงที่มิใช่สาระสำคัญก่อนการลงนาม ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในความตกลงดังกล่าวร่วมกับฝ่ายพม่า เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ มีดังนี้
1. แต่ละฝ่ายจะออกบัตรผ่านแดน และบัตรผ่านแดนชั่วคราวให้แก่ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในบริเวณชายแดนและนอกบริเวณชายแดนตามลำดับ เพื่อการเข้าออกบริเวณพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตของอีกฝ่าย
2. จุดที่ให้เข้าออกในพื้นที่กำหนดไว้ 3 จุด (อาจตกลงเพิ่มเติมได้ภายหลัง) และมีพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าได้ ดังนี้
- แม่สาย - ท่าขี้เหล็ก (เข้าได้ถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายของไทย และเขตตัวเมืองท่าขี้เหล็กของพม่า)
- แม่สอด - เมียวดี (เข้าได้ถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทย และเมืองเมียวดีของพม่า)
- ระนอง - เกาะสอง (เข้าได้ถึงอำเภอเมือง จังหวัดระนองของไทย และเกาะสองของพม่า ซึ่งรวมถึง เกาะสน (Tha - Hte - Kyun) ด้วย)
3. บัตรผ่านแดนจะมีอายุการใช้งานสองปี โดยได้รับอนุญาตให้พำนักได้คราวละไม่เกิน 2 สัปดาห์ ส่วนบัตรผ่านแดนชั่วคราวใช้สำหรับการเข้า - ออก เพียงครั้งเดียวและพำนักได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์
4. สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทาง รวมทั้งชาวต่างประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ในหนังสือเดินทางแล้ว สามารถเข้า - ออกตามจุดผ่านแดนทั้งสามและพำนักได้ไม่เกิน 4 สัปดาห์
5. การแก้ไขความตกลงฯ อาจทำได้โดยการให้ความเห็นชอบร่วมกันผ่านช่องทางการทูต และการยกเลิกความตกลงต้องแจ้งให้ภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน
6. ความตกลงฯ จะจัดทำเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาพม่ากรณีที่มีข้อความไม่สอดคล้องกันจักถือตัวบทภาษาอังกฤษเป็นบรรทัดฐาน
ทั้งนี้ การจัดทำความตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อไทย ดังนี้
1. ป้องกันมิให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดปิดจุดผ่านแดนโดยพลการ อันอาจกระทบกระเทือนต่อการติดต่อระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศและกิจกรรมทางธุรกิจที่ดำเนินการผ่านจุดผ่านแดนนั้น ๆ
2. ส่งเสริมและอำนวยประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติที่ต้องการเกินทางออกจากไทยไปพม่า หรือจากพม่ามาไทย
3.สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของไทยในอันที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและเศรษฐี a ของภูมิภาค
อนึ่ง ร่างความตกลงฯ ดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะทำงานร่วมไทย - พม่า ว่าด้วยจุดผ่านแดน เพื่อพิจารณาแนวทางปฏิบัติสำหรับการเปิดจุดผ่านแดนถาวรของทั้งสองประเทศ ครั้งที่ 2 ที่กรุงย่างกุ้ง ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2539
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 29 ตุลาคม 2539--