ทำเนียบรัฐบาล--26 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานผลการดำเนินการแก้ปัญหาสมัชชาคนจนตามที่สมัชชาคนจนกลุ่มที่ 4 โดยเสนอในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข สรุปได้ดังนี้
1. คณะกรรมการแพทยสภา ได้มีมติและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนี้
1.1 การดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมและสอบเพื่อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอาชีวเวชศาสตร์แพทยสภาได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่างหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวศาสตร์ และหลักสูตรดังกล่าวได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแพทยสภาแล้ว
1.2 คณะกรรมการแพทยสภาได้อนุมัติให้ผู้เป็นกรรมการร่างหลักสูตรฯ จำนวน 15 ท่าน ได้รับหนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์
1.3 คณะกรรมการแพทยสภา ได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 ท่าน เป็นคณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบความรู้ความชำนาญในการประกอบอาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์ เพื่อดำเนินการพิจารณารับรองสถาบันฝึกอบรมและจัดการสอบขึ้นทะเบียนต่อไป ดังนั้น หากแพทย์ท่านใดที่ปฏิบัติงานในสาขานี้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีความประสงค์จะขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบอาชีพเวชกรรมสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์ ก็สามารถยื่นคำร้องขอสอบขึ้นทะเบียนได้ที่แพทยสภา
1.4 สำหรับการออกใบรับรองแพทย์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่แพทยสภายอมรับนั้น คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติระบุจุดยืนว่าแพทย์ทุกคนสามารถออกใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการทำงานได้ หากใบรับรองนั้นได้มาตรฐานและถูกต้องตามความเป็นจริง
2. กรมอนามัย ได้ดำเนินการจัดทำคำขอจัดตั้งกรมอาชีวอนามัย ซึ่งที่ประชุม อกพ. กระทรวงสาธารณสุขได้มีมติเห็นชอบและให้เปลี่ยนชื่อจากกรมอาชีวอนามัย เป็น กรมอาชีวสาธารณสุข และกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอเรื่องขออนุมัติจัดตั้งกรมอาชีวสาธารณสุขให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 26 พฤศจิกายน 2539--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานผลการดำเนินการแก้ปัญหาสมัชชาคนจนตามที่สมัชชาคนจนกลุ่มที่ 4 โดยเสนอในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข สรุปได้ดังนี้
1. คณะกรรมการแพทยสภา ได้มีมติและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนี้
1.1 การดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมและสอบเพื่อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอาชีวเวชศาสตร์แพทยสภาได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่างหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวศาสตร์ และหลักสูตรดังกล่าวได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแพทยสภาแล้ว
1.2 คณะกรรมการแพทยสภาได้อนุมัติให้ผู้เป็นกรรมการร่างหลักสูตรฯ จำนวน 15 ท่าน ได้รับหนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์
1.3 คณะกรรมการแพทยสภา ได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 ท่าน เป็นคณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบความรู้ความชำนาญในการประกอบอาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์ เพื่อดำเนินการพิจารณารับรองสถาบันฝึกอบรมและจัดการสอบขึ้นทะเบียนต่อไป ดังนั้น หากแพทย์ท่านใดที่ปฏิบัติงานในสาขานี้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีความประสงค์จะขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบอาชีพเวชกรรมสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงอาชีวเวชศาสตร์ ก็สามารถยื่นคำร้องขอสอบขึ้นทะเบียนได้ที่แพทยสภา
1.4 สำหรับการออกใบรับรองแพทย์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่แพทยสภายอมรับนั้น คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติระบุจุดยืนว่าแพทย์ทุกคนสามารถออกใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการทำงานได้ หากใบรับรองนั้นได้มาตรฐานและถูกต้องตามความเป็นจริง
2. กรมอนามัย ได้ดำเนินการจัดทำคำขอจัดตั้งกรมอาชีวอนามัย ซึ่งที่ประชุม อกพ. กระทรวงสาธารณสุขได้มีมติเห็นชอบและให้เปลี่ยนชื่อจากกรมอาชีวอนามัย เป็น กรมอาชีวสาธารณสุข และกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอเรื่องขออนุมัติจัดตั้งกรมอาชีวสาธารณสุขให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 26 พฤศจิกายน 2539--