ทำเนียบรัฐบาล--17 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังได้รายงานผลการดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2540 สรุปได้ดังนี้
มาตรการแก้ไขปัญหาทางการเงิน
มาตรการข้อ 1 ดำเนินการให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหาทางการเงิน โดยขยายกำหนดเวลาชำระหนี้และดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับฐานะการเงินของลูกหนี้
ผลการดำเนินการ
1. แต่งตั้งสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่เป็นแกนนำในการเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการปรับโครงสร้างหนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผลการเจรจาของเจ้าหนี้
2. ขอให้สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ สมาคมการค้าอาคารชุด และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรแจ้งให้สมาชิกที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ยื่นความจำนงมายังธนาคารแห่งประเทศไทย
มาตรการข้อ 2 ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมา โดยมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการ กลต. มีเงินกองทุนละ 500 ล้านบาท โดยมีหน่วยจำหน่ายให้ผู้ลงทุนรายย่อยเพื่อจัดซื้ออสังหาริมทรัพย์มาหาผลประโยชน์จากค่าเช่า
ผลการดำเนินการ สำนักงานคณะกรรมการ กลต. ได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ลงทุนรายย่อยจำนวน 7 ฉบับ ซึ่งมีผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมสามารถยื่นคำขอจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ของประกาศดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป
มาตรการเพิ่มอุปสงค์ในตลาด
มาตรการข้อ 1 ให้ผู้ซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่โอนกรรมสิทธิ์ในปี 2540 ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากการขาย(capital gains) อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ถ้าการกระทำภายในสิ้นปี 2550
ผลการดำเนินการ กระทรวงการคลังได้เสนอร่างกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว
มาตรการข้อ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน ร่วมกันให้สินเชื่อบ้านพักและที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ สำหรับบ้านหลังแรกที่มีการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 2540 ในวงเงินเพิ่มขึ้นจากที่ดำเนินการอยู่แล้วอีก 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้เงินกู้สมทบ 5,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ สถาบันการเงินดังกล่าวจะคิดดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ 9 และมีระยะเวลาผ่อนชำระ 15 ปี
ผลการดำเนินการ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน เป็นวงเงินหน่วยงานละ 2,500 ล้านบาท
มาตรการข้อ 3 ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดดำเนินกิจการตลาดรองเงินกู้ที่อยู่อาศัย (secondary mortgage department) ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากธนาคารแห่ง-ประเทศไทย ในการนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการให้กู้ หรือต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแต่อย่างใด ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการตรากฎหมายจัดตั้งบรรษัทเพื่อดำเนินกิจการตลาดรองดังกล่าว ให้ยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมจดจำนองตามโครงการนี้ให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์
ผลการดำเนินการ
1. คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้พิจารณาอนุมัติให้จัดตั้งสำนักงานตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยกำหนดเป้าหมายการรับซื้อตราสารของสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการรับซื้อบัญชีลูกหนี้ที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น สำหรับปี 2540 เป็นวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
2. ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือเงินกู้แก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงินไม่เกิน500 ล้านบาท
3. กระทรวงการคลังได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดตั้งบรรษัทเพื่อดำเนินกิจการตลาดรองเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และดำเนินการยกร่างกฎหมายการจัดตั้งบรรษัทดังกล่าว ส่วนเรื่องการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมจดจำนองตามโครงการ อยู่ในระหว่างดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย โดยการออกกฎกระทรวง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 17 เมษายน 2540--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังได้รายงานผลการดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2540 สรุปได้ดังนี้
มาตรการแก้ไขปัญหาทางการเงิน
มาตรการข้อ 1 ดำเนินการให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหาทางการเงิน โดยขยายกำหนดเวลาชำระหนี้และดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับฐานะการเงินของลูกหนี้
ผลการดำเนินการ
1. แต่งตั้งสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่เป็นแกนนำในการเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการปรับโครงสร้างหนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผลการเจรจาของเจ้าหนี้
2. ขอให้สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ สมาคมการค้าอาคารชุด และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรแจ้งให้สมาชิกที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ยื่นความจำนงมายังธนาคารแห่งประเทศไทย
มาตรการข้อ 2 ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมา โดยมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการ กลต. มีเงินกองทุนละ 500 ล้านบาท โดยมีหน่วยจำหน่ายให้ผู้ลงทุนรายย่อยเพื่อจัดซื้ออสังหาริมทรัพย์มาหาผลประโยชน์จากค่าเช่า
ผลการดำเนินการ สำนักงานคณะกรรมการ กลต. ได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ลงทุนรายย่อยจำนวน 7 ฉบับ ซึ่งมีผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมสามารถยื่นคำขอจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ของประกาศดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป
มาตรการเพิ่มอุปสงค์ในตลาด
มาตรการข้อ 1 ให้ผู้ซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่โอนกรรมสิทธิ์ในปี 2540 ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากการขาย(capital gains) อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ถ้าการกระทำภายในสิ้นปี 2550
ผลการดำเนินการ กระทรวงการคลังได้เสนอร่างกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว
มาตรการข้อ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน ร่วมกันให้สินเชื่อบ้านพักและที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ สำหรับบ้านหลังแรกที่มีการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 2540 ในวงเงินเพิ่มขึ้นจากที่ดำเนินการอยู่แล้วอีก 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้เงินกู้สมทบ 5,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ สถาบันการเงินดังกล่าวจะคิดดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ 9 และมีระยะเวลาผ่อนชำระ 15 ปี
ผลการดำเนินการ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน เป็นวงเงินหน่วยงานละ 2,500 ล้านบาท
มาตรการข้อ 3 ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดดำเนินกิจการตลาดรองเงินกู้ที่อยู่อาศัย (secondary mortgage department) ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากธนาคารแห่ง-ประเทศไทย ในการนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการให้กู้ หรือต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแต่อย่างใด ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการตรากฎหมายจัดตั้งบรรษัทเพื่อดำเนินกิจการตลาดรองดังกล่าว ให้ยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมจดจำนองตามโครงการนี้ให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์
ผลการดำเนินการ
1. คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้พิจารณาอนุมัติให้จัดตั้งสำนักงานตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยกำหนดเป้าหมายการรับซื้อตราสารของสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการรับซื้อบัญชีลูกหนี้ที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น สำหรับปี 2540 เป็นวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
2. ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือเงินกู้แก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงินไม่เกิน500 ล้านบาท
3. กระทรวงการคลังได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดตั้งบรรษัทเพื่อดำเนินกิจการตลาดรองเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และดำเนินการยกร่างกฎหมายการจัดตั้งบรรษัทดังกล่าว ส่วนเรื่องการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมจดจำนองตามโครงการ อยู่ในระหว่างดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย โดยการออกกฎกระทรวง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 17 เมษายน 2540--