เรื่อง การเข้าเป็นภาคีความตกลงสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติของอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ฉบับลงวันที่ 10 ธันวาคม 2525 เกี่ยวกับการอนุรักษ์และการจัดการประชากรสัตว์น้ำชนิดที่ข้ามเขตและอพยพย้ายถิ่นไกล
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีความตกลงสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติของอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเลฉบับลงวันที่ 10 ธันวาคม 2525 เกี่ยวกับการอนุรักษ์และการจัดการประชากรสัตว์น้ำชนิดที่ข้ามเขตและอพยพย้ายถิ่นไกล ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ และให้ส่งความตกลงดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา แล้วเสนอสภานิติบัญญํติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ก่อนแสดงเจตนาให้ความตกลงมีผลผูกพันต่อไป โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยื่นภาคยานุวัติสารหรือสารให้ความยอมรับแก่เลขาธิการสหประชาชาติ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบความตกลงดังกล่าวแล้ว
สาระสำคัญของความตกลงดังกล่าวเป็นการวางกรอบหลักการทั่วไปสำหรับการอนุรักษ์และจัดการประชากรสัตว์น้ำที่ข้ามเขตและอพยพย้ายถิ่นไกล โดยจะต้องอยู่บนพื้นฐานของแนวทางการป้องกันล่วงหน้า (precautionary approach) หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ (The best scientific evidence available) และแนวทางระบบนิเวศ (ecosystem approach) ซึ่งรัฐภาคีจะต้องนำบทบัญญัติตามความตกลงฯ ไปใช้ปฏิบัติในทะเลหลวงและนำบทบัญญัติในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ไปใช้ปฏิบัติภายในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของตนด้วย รวมทั้งได้กำหนดให้รัฐชายฝั่งและรัฐที่ทำการประมงในทะเลหลวงจะต้องทำให้มั่นใจว่ามาตรการอนุรักษ์และจัดการที่ใช้บังคับในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและในทะเลหลวงมีความสอดคล้องกัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 มีนาคม 2560--