เรื่อง ขออนุมัติร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเตว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ
1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเตว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามใน ร่างความตกลงดังกล่าว
3. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเตว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้ กต. ดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้องทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
1. อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการของราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ไม่ต้องรับการตรวจลงตราเพื่อเดินเข้า – ออก เดินทางผ่าน และพำนักในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่เดินทางเข้า โดยบุคคลดังกล่าวจะต้องไม่แสวงหาการจ้างงานใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานตนเอง หรือธุรกิจส่วนตัวอื่นใดในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง
2. ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการของราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูตหรือการกงสุลหรือผู้แทนในองค์การระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง รวมถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าวที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้า พำนัก เดินทางผ่าน รวมถึงเดินทางออกจากดินแดนของ อีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราเป็นระยะไม่เกิน 30 วัน และสามารถได้รับการขยายไปจนสิ้นสุดวาระการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลเหล่านั้นเมื่อมีคำร้องขอจากสถานเอกอัครราชทูตของอีกฝ่ายหนึ่ง
3. ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเตสงวนสิทธิในการปฏิเสธการ เข้าเมืองหรือยกเลิกการพำนักของบุคลลที่ได้รับยกเว้นการตรวจลงตราภายใต้ความตกลงฉบับนี้ บนพื้นฐานของความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติการสาธารณสุข หรือการเป็นบุคคลไม่พึงปราถนา ทั้งนี้ การระงับการใช้ ความตกลงฉบับนี้ทั้งหมดหรือเฉพาะส่วน จะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์หรือโดยผ่านช่องทางการทูตเป็นระยะเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
4. ความตกลงฉบับนี้อาจมีการแก้ไข ทบทวนและปรับเพิ่มโดยความยินยอมร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทั้งสองฝ่ายเมื่อใดก็ได้หากเห็นว่ามีความจำเป็น
5. ความตกลงฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับ 30 วัน จากวันที่ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ได้รับการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรฉบับสุดท้ายจากอีกฝ่ายหนึ่งว่าได้ดำเนินการให้ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับในประเทศของแต่ละฝ่าย และจะมีผลใช้บังคับจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกความตกลงฉบับนี้โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน ก่อนการบอกเลิกดังกล่าวมีผลใช้บังคับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 พฤษภาคม 2560--