1. เห็นชอบในหลักการต่อร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 9 และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ กต. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
2. อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีรับรองถ้อยแถลงร่วมการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
สาระสำคัญของร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ให้ความสำคัญกับความคืบหน้าของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์กรุงโตเกียวใหม่ ค.ศ. 2015 และร่วมเฉลิมฉลองโอกาสการครอบรอบ 50 ปีการก่อตั้งอาเซียน บทบาทของญี่ปุ่นในอนุภูมิภาคผ่านข้อริเริ่มใหม่ ๆ เช่น ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง เช่นเดียวกับความคืบหน้าของโครงการที่ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานและเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านกายภาพ (Hard Connectivity) และความเชื่อมโยงด้านที่จับต้องไม่ได้ (Soft Connectivity) เช่น ความเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ และแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมลุ่มน้ำโขงที่มีความเชื่อมโยง (Connected Mekong Industrial Development) นอกจากนี้ ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ แสดงความตั้งใจที่จะประสานงานร่วมกับองค์กรระดับภูมิภาคต่าง ๆ และสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศของไทย กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น โดยเน้นความสำคัญของการบริหารจัดการแหล่งน้ำและการอนุรักษ์แม่น้ำโขงซึ่งจะต้องร่วมมือกับคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด ในประเด็นเหล่านี้ ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประเด็นด้านระบบการดูแลสุขภาพ การรักษาเสถียรภาพ และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชนในอุณภูมิภาคลุ่มน้ำโขงรวมทั้งยืนยันการจัดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 10 ที่ประเทศญี่ปุ่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560--