การเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ข่าวการเมือง Tuesday August 28, 2018 17:47 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ การปรับเปลี่ยนการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อการเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กำหนด (สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นฯ) รายเดือน (200/100 บาท/คน/เดือน) สำหรับระยะเวลาคงเหลืออีก 4 เดือน (กันยายน – ธันวาคม 2561) เป็นการเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีสิทธิตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทนด้วยเงินจำนวนเท่าเดิมกับที่เคยได้รับเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อให้แก่ผู้มีสิทธิสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการอันจะช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ และส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ

สาระสำคัญของเรื่อง

กค. รายงานว่า การดำเนินการตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนมีนาคม – สิงหาคม 2561 (ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน) ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการฯ รวมทั้งสิ้น 5,695.83 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ดังนี้

(1) กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี จำนวนเงิน 4,868.85 ล้านบาท และ

(2) กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี จำนวนเงิน 826.98 ล้านบาท โดยมาตรการดังกล่าวสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี กค. ได้เสนอว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อให้แก่ผู้มีสิทธิสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ อันจะช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ และส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ จึงเห็นควรปรับเปลี่ยนแนวทางจากการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นฯ รายเดือน เป็น การเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิแทน ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมที่ได้รับ โดยจะใช้ดำเนินการในระยะเวลาที่เหลืออีก 4 เดือนของมาตรการนี้ คือ กันยายน – ธันวาคม 2561 ซึ่งผู้มีสิทธิสามารถถอนเงินที่เติมเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ฯ เป็นเงินสดได้ ผ่านตู้ ATM และสาขาของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย รวมทั้งหากมียอดคงเหลือของเดือน สามารถนำไปสะสมในเดือนถัดไปได้ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 (เรื่อง มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ในส่วนของข้อ 3.5 มาตรการส่งเสริมการพัฒนาตนเอง

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 สิงหาคม 2561--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ