คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี 2562
1. การดูแลช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นงานที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยมีกรมการกงสุลเป็นแกนขับเคลื่อนหลักภายใต้กรอบนี้ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2559 – 2561) กระทรวงการต่างประเทศได้ให้บริการรับคำร้องหนังสือเดินทางนอกเวลาราชการ (วันเสาร์) เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญแก่ประชาชนในโอกาสปีใหม่ โดยมีประชาชนได้รับบริการรวมทั้งสิ้น 114,902 ราย
2. สำหรับในปี พ.ศ. 2562 กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมการกงสุลได้เปิดบริการพิเศษ ในรูปแบบเดิมคือ ให้บริการรับคำร้องหนังสือเดินทางนอกเวลาราชการ (วันเสาร์) และเพิ่มบริการพิเศษในรูปแบบใหม่ คือ การบริการเอกสารแปลสำเร็จรูปก่อนการรับรองนิติกรณ์เอกสารโดยมีรายละเอียด ดังนี้
2.1 การบริการรับคำร้องหนังสือเดินทางเล่มบุคคลทั่วไป ในวันเสาร์ที่ 8 / 15 / 22 ธันวาคม 2561 และวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 โดยเปิดให้บริการ 3 แห่ง ได้แก่ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ศรีนครินทร์ (ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค) สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า (อาคาร SC Plaza) และสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว MRT คลองเตย
2.2 การบริการเอกสารแปลสำเร็จรูปก่อนการรับรองนิติกรณ์เอกสารเพื่อลดภาระค่าแปลเอกสาร ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับเอกสารแปลที่มีการรองนิติกรณ์รวดเร็วขึ้น ระยะเวลาให้บริการ 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2562) โดยเป็นการให้บริการประชาชนที่ต้องการรับรองนิติกรณ์คำแปลเอกสารแต่ยังไม่ได้แปลเอกสารมาก่อน สำหรับเอกสาร 16 ประเภท ได้แก่
(1) บัตรประจำตัวประชาชน
(2) แบบรับรองการทะเบียนราษฎร
(3) ทะเบียนบ้าน
(4) สูติบัตร
(5) มรณบัตร
(6) ใบสำคัญการสมรส
(7) ทะเบียนสมรสและบันทึก
(8) ใบสำคัญการหย่า
(9) ทะเบียนหย่าและบันทึก
(10) ทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว
(11) บันทึกฐานะแห่งครอบครัว
(12) หนังสือรับรองการใช้คำนำหน้านาม
(13) หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อสกุล
(14) หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว
(15) หนังสือสำคัญการร่วมใช้ชื่อสกุล และ
(16) หนังสือสำคัญการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล
ทั้งนี้ ประชาชนเจ้าของเอกสารต้องนำมายื่นและกรอกคำร้องด้วยตนเอง และจะไม่รับเอกสารที่ยื่นผ่านตัวแทนหรือนายหน้า และจะส่งคืนเอกสารให้ประชาชนทางไปรษณีย์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมารับเอกสารด้วยตนเอง โดยมีค่าบริการส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 60 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ธันวาคม 2561--