การกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

1. สำนักงานธนานุเคราะห์ได้จัดทำกรอบงบประมาณลงทุนประจำปี 2562 ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ ในการประชุม ครั้งที่ 6/ปีงบประมาณ 2561 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 ได้พิจารณาและเห็นชอบแล้ว มีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้

1.1 ภาคงบลงทุน รวมทั้งสิ้น 109.62 ล้านบาท ดังนี้

รายการ / จำนวน (ล้านบาท)

1. งบลงทุนที่ขออนุมัติรายปี (ปรับปรุงงานเดิม)

(งบลงทุนหมวดสิ่งก่อสร้างที่ขออนุมัติปรับปรุงอาคาร หมวดเครื่องใช้สำนักงานเพื่อใช้ในกิจการรับจำนำ และหมวดเงินสำรองราคา) / 5.56

2. งบลงทุนที่จัดทำเป็นแผนระยะยาว

(แผนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และแผนขยายสถานธนานุเคราะห์) / 104.06

รวม / 109.62

1.2 ภาคงบทำการรับจำนำ โดยได้ประมาณการรายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไรสุทธิของปีงบประมาณ 2562 ดังนี้

รายการ / จำนวน (ล้านบาท)

1. รายได้รวม 795.39

(1) รายได้ดอกเบี้ย (คิดจากประมาณการจากดอกเบี้ยที่ได้จากทรัพย์ที่มาจำนำ) / 677.69

(2) กำไรจำหน่ายฯ (คิดจากประมาณการรายได้ทรัพย์หลุดจำนำ) / 115.70

(3) รายได้อื่น ๆ / 2.00

2. ค่าใช้จ่ายรวม / 438.16

(1) ค่าใช้จ่ายในการขาย / 364.17

(2) ดอกเบี้ยจ่าย (คิดจากดอกเบี้ยที่จะกู้เงินปีงบประมาณ

จำนวน 500 ล้านบาท) / 73.99

กำไรสุทธิ / 357.23

1.3 แผนการกู้เงินปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท สำนักงาน

ธนานุเคราะห์ได้มีการประมาณการแผนทางการเงินตามสภาวการณ์ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกตามปีงบประมาณ 2561 และคาดว่าจะมีจำนวนผู้มาใช้บริการรับจำนำประมาณ 1,339,419 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2561 จำนวน 38,630 ราย เนื่องจากประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำด้วยการนำทรัพย์สินมาจำนำกับโรงรับจำนำของรัฐบาลที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าแหล่งเงินทุนและโรงรับจำนำเอกชน โดยประมาณการจำนวนเงินการรับจำนำประมาณ 19,555.52 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2561 ประมาณ 569.05 ล้านบาท ซึ่งการกู้เงิน จำนวน 500 ล้านบาท ของสำนักงานธนานุเคราะห์ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อไว้ใช้เป็นเงินทุนในการหมุนเวียน และรองรับธุรกรรมการรับจำนำของประชาชนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการประมาณการข้างต้น รวมทั้งเพื่อประกันการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ ซึ่งหากกู้เงิน จำนวน 500 ล้านบาท มาเพื่อรองรับธุรกรรมรับจำนำดังกล่าวแล้ว จะสามารถได้รับรายได้รวม จำนวน 795.39 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 438.16 ล้านบาทแล้ว จะมีกำไรสุทธิ จำนวน 357.23 ล้านบาท ตามการประมาณการงบ ทำการรับจำนำปีงบประมาณ 2562

2. สำหรับแผนการกู้เงินปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท กระทรวงการคลัง (กค.) และ พม. พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนักงานธนานุเคราะห์มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท โดย กค. ไม่ค้ำประกัน ซึ่งวงเงินดังกล่าวได้รับบรรจุใน แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2562 ด้วยแล้ว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 มกราคม 2562--