ขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ)

ข่าวการเมือง Tuesday June 4, 2019 17:45 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมทางหลวงดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ภายในกรอบวงเงิน 2,630 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการดังกล่าว ให้กรมทางหลวงจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 พร้อมทั้งเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติก่อนที่จะมีการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ตามนัยมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญของเรื่อง

คค. รายงานว่า

1. ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ (30 พฤษภาคม 2560) กรมทางหลวงได้จ้างกลุ่มบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมสำรวจออกแบบรายละเอียด สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมระหว่างจังหวัดบึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว แล้วเสร็จเมื่อปี 2557

2. ในการประชุมคณะทำงานประสานงานร่วมไทย - สปป.ลาว เพื่อเตรียมความพร้อมโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 จังหวัดหนองคาย ที่ประชุมรับทราบแนวทางการดำเนินการโครงการ การบริหารโครงการและการบริหารสัญญา รวมทั้งกรอบระยะเวลาการดำเนินการโครงการ ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายสามารถได้ข้อสรุปเรื่องวงเงินค่าก่อสร้างและแหล่งเงินดำเนินการแล้ว สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและเริ่มงานก่อสร้างได้ภายใน 8 เดือน มีระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 36 เดือน โดยทั้งสองฝ่ายจะนำเสนอรัฐบาลของตนพิจารณาแหล่งเงินเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวตามวงเงินที่แต่ละฝ่ายรับผิดชอบต่อไป

3. กรมทางหลวงได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2562 สำหรับดำเนินการก่อสร้างโครงการ แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดในฝั่งไทยจำนวน 400 ล้านบาท กรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2560 - 2561 แล้ว จำนวน 250 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณในส่วนที่เหลือ ในส่วนของ สปป.ลาว ได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอกู้เงินไปยังสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) แล้ว โดย สพพ. จะดำเนินการเจรจาต่อรองเงื่อนไขการให้กู้เงินกับ สปป.ลาว ตามระเบียบต่อไป

4. โดยที่กระทรวงการคลัง (กค.) และสำนักงบประมาณ (สงป.) มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับแหล่งเงินงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการฯ (กค. เห็นควรให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเนื่องจากโครงการฯ ไม่มีผลตอบแทนทางการเงินโดยตรงจากการลงทุน ในขณะที่ สงป. เห็นควรให้ กค. กู้เงินเพื่อดำเนินโครงการ) คค. จึงได้จัดการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 โดยมีผู้แทนจาก กค. และ สงป. ร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 2,630 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบ ได้แก่ ค่าก่อสร้าง จำนวน 2,553 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 77 ล้านบาท ทั้งนี้ สรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ ทั้งในส่วนของประเทศไทยและ สปป.ลาว ได้ดังนี้

รายละเอียด

1. งานถนนและด่านพรมแดนฝั่งไทย

หน่วย : ล้านบาท

ค่างานก่อสร้าง 1,766

ค่าควบคุมงาน 53

รวม 1,819

2. งานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทย (รวมงานปรับปรุงสี่แยก ทล. 212 และลานเอนกประสงค์ใต้สะพาน)

หน่วย : ล้านบาท

ค่างานก่อสร้าง 787

ค่าควบคุมงาน 24

รวม 811

3. งานสะพานข้ามแม่น้ำโขง ฝั่ง สปป.ลาว

หน่วย : ล้านบาท

ค่างานก่อสร้าง 476

ค่าควบคุมงาน 14

รวม 490

4. งานถนนและด่านพรมแดน ฝั่ง สปป.ลาว

หน่วย : ล้านบาท

ค่างานก่อสร้าง 780

ค่าควบคุมงาน 30

รวม 810

รวมทั้งสิ้น

หน่วย : ล้านบาท

ค่างานก่อสร้าง 3,809

ค่าควบคุมงาน 121

รวม 3,930

รวมค่างานฝั่งไทย 2,630 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินค่าก่อสร้าง 2,533 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 77 ล้านบาท (ไม่รวมวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ 400 ล้านบาท)

รวมค่างานฝั่ง สปป.ลาว 1,300 ล้านบาท

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 มิถุนายน 2562--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ