การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรื่อง การต่อต้านการก่อการร้ายที่ 2462 (ค.ศ. 2019)

ข่าวการเมือง Tuesday July 2, 2019 16:12 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council - UNSC) เรื่อง การต่อต้านการก่อการร้ายที่ 2462 (ค.ศ. 2019) และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงคมนาคม (คค.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) ถือปฏิบัติ และแจ้งผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หรือข้อขัดข้อง หรืออุปสรรคในการปฏิบัติตามข้อมติดังกล่าวให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ เพื่อประโยชน์ในการรายงาน ต่อสหประชาชาติต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณารับทราบและรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council - UNSC) เรื่อง การต่อต้าน การก่อการร้ายที่ 2462 (ค.ศ. 2019) ที่ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นข้อมติ UNSC ฉบับที่ 25 เพื่อตอบสนองต่อการก่อการร้ายที่เปลี่ยนแปลงไปและเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคง เช่น การใช้อินเทอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือเผยแพร่แนวคิดก่อการร้าย หาสมาชิก ระดมทุนและวางแผนการก่อการร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยข้อมติฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ไทยในฐานะ รัฐสมาชิกจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายใต้ขอบเขตของกฎหมายภายในของไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้ายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การกำหนดความผิดทางอาญาที่รุนแรงสำหรับการดำเนินคดีและลงโทษที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม การเรียกร้องให้รัฐสมาชิกพิจารณาเปิดเผยบัญชีการอายัดทรัพย์สินระดับชาติหรือระดับภูมิภาคต่อสาธารณะ การผลักดันให้รัฐสมาชิกมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดำเนินการและปรับปรุงบัญชีมาตรการลงโทษกลุ่ม ISIL (Da’esh) และกลุ่ม Al – Qaida ให้ทันสมัย และการผลักดันให้รัฐสมาชิกจัดตั้งหรือยกระดับกรอบการทำงานระดับชาติที่อนุญาตให้หน่วยงานระดับชาติที่เกี่ยวข้องสามารถรวบรวมหรือแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับ การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย เป็นต้น

ทั้งนี้ การดำเนินการตามข้อมติดังกล่าวส่วนใหญสอดคล้องกับภารกิจการต่อต้านการก่อการร้ายที่ส่วนราชการของไทยปฏิบัติตามหน้าที่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ไทยควรเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเพื่อการป้องปรามเกี่ยวกับการห้ามเดินทางเข้าหรือผ่านดินแดนและการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลปฏิบัติการและข่าวกรองทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือความเคลื่อนไหวของเครือข่ายก่อการร้ายกับประเทศต้นทาง ประเทศถิ่นพำนัก หรือเจ้าของสัญชาติ ประเทศทางผ่าน และประเทศปลายทาง เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการเงินและการเดินทางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีความเป็นไปได้ที่นักรบก่อการร้ายต่างชาติอาจเลือกเดินทางผ่านเข้าและออกจากไทย ใช้ไทยเป็นที่พักพิง รวมทั้งอาจดำเนินธุรกรรมการเงินในหรือผ่านประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการก่อการร้ายทั้งในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่น ๆ

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 กรกฎาคม 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ