ร่างระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ….

ข่าวการเมือง Tuesday January 14, 2020 18:11 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

กต. เสนอว่า

1. เจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการทูตสากลที่หลายประเทศใช้ในการขับเคลื่อนงานด้านการต่างประเทศ ซึ่งเมื่อบริบทการต่างประเทศและสถานะของไทยในเวทีโลกเปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปการดำเนินงานของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ให้สามารถตอบสนองการดำเนินนโยบายการต่างประเทศในเชิงรุก เป็นเอกภาพ และมีบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ทีมประเทศไทย และในปัจจุบันได้มีระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการแต่งตั้งและการหน้าที่ของพนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2536 ใช้บังคับ ซึ่งเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งพนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ และหน้าที่ของพนักงานฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ดังกล่าว

2. เนื่องจากสภาพการณ์ปัจจุบันด้านการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไป และเพื่อเป็นพื้นฐานรองรับการดำเนินการปฏิรูปการดำเนินงานของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ในมิติอื่น ๆ รวมทั้งเพื่อให้การแต่งตั้งและการหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์เหมาะสมและสอดคล้องกับบทบาทและหน้าที่และมีความชัดเจนยิ่งขึ้น จึงเห็นควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงการต่างประเทศตามข้อ 1. ซึ่งเป็นการปรับปรุงในสาระสำคัญเกี่ยวกับการแต่งตั้ง วาระการดำรงตำแหน่ง หน้าที่ และการสิ้นสุดหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ ตลอดจนค่าตอบแทนสำหรับเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ ดังนี้

2.1 กำหนดกลไกการทำงานในการแต่งตั้งเจ้าพนักงานกงสุลกิติมศักดิ์ โดยให้มี “คณะกรรมการเสนอรายชื่อและประเมินผลเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทยประจำต่างประเทศ” ซึ่งแต่งตั้งโดยสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ มีอำนาจหน้าที่สรรหา ตรวจสอบคุณสมบัติ เสนอรายชื่อบุคคลและประเมินและรายงานผลการปฏิบัติงานของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือกงสุลกิตติมศักดิ์ และให้มี “คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งการดำรงตำแหน่ง และการถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งราชอาณาจักรไทยประจำต่างประเทศ” ซึ่งแต่งตั้งโดย กต. มีอำนาจหน้าที่พิจารณาการแต่งตั้ง การต่ออายุวาระการดำรงตำแหน่ง การสิ้นสุดหน้าที่ การถอดถอน และการพิจารณาผลการประเมิน และรายงานผลปฏิบัติงานประจำปีของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือกงสุลกิตติมศักดิ์

2.2 กำหนดให้ในการแต่งตั้งและการต่ออายุกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือกงสุลกิตติมศักดิ์ ให้คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งฯ พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการเสนอรายชื่อฯ อาทิ การดำรงตำแห่งหัวหน้าสถานทำการทางกงสุลเป็นครั้งแรก ให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์เท่านั้น สำหรับการเลื่อนฐานะหัวหน้าสถานทำการทางกงสุลจากกงสุลกิตติมศักดิ์เป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ให้คำนึงถึงผลการดำเนินงาน ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ความอาวุโส ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น และการขยายเขตกงสุล เป็นต้น

2.3 กำหนดหลักเกณฑ์ในการนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี โดยกรณี (ก) การแต่งตั้งและเลื่อนฐานะหัวหน้าสถานทำการทางกงสุลให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ เพื่อดำเนินการออกสัญญาบัตรตราตั้งต่อไป และ (ข) การสิ้นสุดหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์โดยการถอดถอนให้เสนอมติถอดถอนเพื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนมีหนังสือแจ้ง กต. ของรัฐผู้รับ

2.4 กำหนดหน้าที่ของเจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ในการปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศไทยและหน้าที่ในการคุ้มครองบุคคลสัญชาติไทย

2.5 กำหนดให้เจ้าพนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์ไม่มีสิทธิได้รับเงินเดือน บำเหน็จ บำนาญ สิทธิเรียกร้องค่าทดแทนหรือค่าตอบแทนในรูปแบบอื่นใดจาก กต. สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ในระหว่างการดำรงตำแหน่งหรือภายหลังสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง

2.6 ร่างระเบียบกระทรวงฯ ฉบับใหม่นี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ยกเว้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการห้ามปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายทะเบียนและการตรวจลงตรา ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 365 วันนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการดำเนินมาตรการรองรับผลกระทบจากการยกเลิกอำนาจการตรวจลงตราและการกระทำนิติกรณ์ของสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งในมิติการให้บริการและด้านอำนวยการ

3. การปรับปรุงระเบียบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการปฏิรูประบบกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยในต่างประเทศที่ กต. อยู่ในระหว่างดำเนินการ และยังเป็นร่างระเบียบที่มีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย กต. จึงพิจารณาเห็นสมควรเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 มกราคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ