ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ข่าวการเมือง Tuesday March 3, 2020 18:09 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำหน้ากากอนามัยในการดำเนินโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (Covid-19)

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอดังนี้

1. รับทราบการจัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง

2. อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินงบประมาณ 225,000,000 บาท สำหรับเป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำหน้ากากอนามัยในโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดยการจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 7,774 แห่ง (เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล)

สาระสำคัญของเรื่อง

มท. เสนอว่า

เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มิให้เกิดการแพร่กระจายหรือขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น และมิให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ระบบการสาธารณสุข และเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การป้องกันตนเองมิให้สัมผัสกับโรคด้วยการสวมหน้ากากอนามัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในปัจจุบันพบว่า หน้ากากอนามัยทั้งในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จัดหาหรือจัดซื้อยากขึ้นและมีราคาแพง ในการนี้ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และมีส่วนร่วมในการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการจัดอบรมให้ความรู้ในการจัดทำหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนในการนำไปใช้ป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสามารถขยายผลนำไปประกอบเป็นอาชีพและสร้างรายได้ในการดำเนินชีวิต

มท. โดย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง และกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุข จึงได้บูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินการ ดังนี้

1. จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง โดยมีกรอบการดำเนินการดังนี้

(1) การสร้างทีมวิทยากร หรือทีมครู ก. ในพื้นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่วิธีการจัดทำหน้ากากอนามัยป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง และกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุข โดยให้มีผู้เข้ารับการอบรมจากบุคลากรในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน (กำนันและผู้ใหญ่บ้าน) ผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)) กลุ่มสตรี จิตอาสา และประชาชนที่สนใจ เพื่อให้เป็นทีมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้และทักษะการจัดทำหน้ากากอนามัย สำหรับป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

(2) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดอบรม เพื่อสร้างทีมวิทยากร หรือทีม ครู ก. ในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้เข้ารับการอบรมตาม (1) โดยให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และการเข้ารับการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ. 2557 กรณีจัดอบรมบุคคลภายนอก

2. จัดทำ “โครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19)” เพื่อขยายผลการดำเนินโครงการตามข้อ 1 โดยมีกรอบการดำเนินการ ดังนี้

(1) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบูรณาการความร่วมมือประสานทีมวิทยากร หรือ ทีมครู ก. ผู้นำหมู่บ้าน (กำนันและผู้ใหญ่บ้าน) และผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)) กลุ่มสตรี จิตอาสา และประชาชนที่สนใจ เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำหน้ากากอนามัย สำหรับป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

(2) การจัดทำหน้ากากอนามัยป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อประชาชน โดยการขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 7,774 แห่ง (เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล) ภายในวงเงินงบประมาณ 225,000,000 บาท สำหรับเป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำหน้ากากอนามัย จำนวน 50,000,000 ชิ้น ให้แก่ประชาชนในพื้นที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล

สำหรับโครงการตามข้อ 1 และ 2 กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการดังกล่าวให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำไปปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มีนาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ