มาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยากรณีได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่ระบาด

ข่าวการเมือง Tuesday March 24, 2020 18:43 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยากรณีได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่ระบาดตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดในหลายประเทศ ประกอบกับสถานการณ์ภัยแล้งซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงและยาวนานส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และภาคการเกษตร รวมถึงภาคธุรกิจและแรงงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นอย่างมาก คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 เห็นชอบมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 1 ซึ่งกรมธนารักษ์รับผิดชอบในส่วนของมาตรการด้านอื่น ๆ คือ มาตรการบรรเทาภาระค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าตอบแทนในการให้บริการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลดหรือชะลอหรือเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียม ค่าเช่าที่ราชพัสดุ ค่าตอบแทนในการให้บริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่นเพื่อบรรเทาภาระให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ได้กำหนดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำมาตรการ/แผนงาน/โครงการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป เพื่อช่วยบรรเทาและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อภาคการผลิตและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้เศรษฐกิจยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ในการนี้กรมธนารักษ์จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อตอบสนองมาตรการของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรีและช่วยเหลือ เยียวยาผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ดังนี้

1. มาตรการการยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าให้แก่ผู้เช่าของกรมธนารักษ์ เป็นระยะเวลา 1 ปี (12 เดือน) สำหรับผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัยและผู้เช่าเพื่อการเกษตร

2. มาตรการช่วยเหลือผู้เช่ารายใหญ่และผู้เช่าที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยผู้เช่าดังกล่าวสามารถเลื่อนกำหนดการชำระค่าเช่าและค่าตอบแทนของเดือนมีนาคม 2563 - สิงหาคม 2563 (รวมระยะเวลา 6 เดือน) ได้ถึงวันที่ 7 กันยายน 2563 โดยให้ยกเว้นเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างชำระตามสัญญาที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ได้แจ้งให้สำนักบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานครและสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทุกพื้นที่ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ จากการกำหนดมาตรการดังกล่าวข้างต้นจะสามารถช่วยเหลือ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัยและผู้เช่าเพื่อการเกษตรซึ่งมีสัญญาเช่าจำนวน 150,409 ราย และเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้เช่าและสมาชิกในครัวเรือนได้มากกว่า 450,000 คน แต่จะทำให้กรมธนารักษ์สูญเสียรายได้ประมาณ 189.791 ล้านบาท

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มีนาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ